Sunday, December 31, 2006

สวัสดีปีใหม่ค่า

ปีใหม่นี้ขอให้ทุกท่านและตัวเราเอง พบแต่สิ่งดีๆ มีความสุขมากๆ และที่สำคัญที่สุด คือมีกำลังใจเข้มแข็งนะจ๊ะ
Enjoy your life with fun, healthy, wealthy and very happy in this year.

Thursday, December 28, 2006

ความซวยยังดำเนินต่อไป part II

อาทิตย์นี้ก็ยังเหนื่อยยากอยู่กับการเดินทาง
เราต้องไปรับแม่ที่ลำปางกลับบ้าน มาให้ทันผ่าตาต้อหินวันศุกร์ 29/12/49 จะขับรถไปก็วันลาจะหมดแล้ว
เลยต้องวุ่นอยู่กับการจองตั๋วรถไฟ รถทัวร์ เครื่องบิน ปรากฎว่ารถไฟได้แต่ขากลับ
เครื่องบินเต็ม แต่มารู้หลังจากโอนเงินไปให้ agency แล้ว (ต้องแฟกซ์ใบโอนเพื่อให้ บ.โอนคืนมาซะอีก)
ส่วนรถทัวร์ ต้องไปวัดดวงเอาเองที่ขนส่งหมอชิต
สรุปก็คือ เดินทางด้วยรถทัวร์คืนวันอังคาร ไปถึงพุธเช้า แล้วก็กลับรถไฟตู้นอนกะแม่ (โครตหนาว) วันพุธเย็น มาถึงพฤหัสเช้า แล้วก็ไปทำงานและอยู่เวรตอนเย็น
โอ้ พระเจ้า ปีใหม่นี้ขอให้ได้แฟน เอ๊ย ขอให้ได้นอนอย่างสงบๆ บ้างเทิ้ด

Sunday, December 24, 2006

ความซวยยังดำเนินต่อไป

ถึงแม้ว่าอาทิตย์ที่แล้วจะไม่ต้องอยู่เวรแบบนรกลงทันฑ์อย่างที่เขียนไว้ เพราะว่ามีเรื่องน้าที่ลำปางป่วยหนักเข้ามาแทรก ก็เลยต้องแลกเวรอุตลุต (5 เวร) เพื่อจะขับรถ (ด้วยความเร็ว 140 km/hr อีกแล้วครับทั่น) ไปส่งแม่เมื่อวันพฤหัส แล้วก็รีบบึ่งรถกลับมาบ้านวันศุกร์ มาอยู่ร้านยาวันเสาร์และอยู่เวรวันอาทิตย์
ที่บ้านเราว่าหนาวแล้ว ไปลำปางยังหนาวกว่า จนต้องใช้วิธีวิ่งผ่านน้ำที่คิดได้ว่าไม่ควรเอาสบู่ไปเล้ย แถมญาติๆ ก็มากันเต็มบ้าน มีเด็กร้องกระจองอแง กว่ามัน (และเรา) จะนอนได้ แล้วยังต้องรีบตื่นเพื่อขับรถกลับบ้านอีก เดือนธันวาปีนี้นอกจากจะหมดตัวเพราะเที่ยว แล้วยังเหนื่อยสุดๆ อีกต่างหาก อาทิตย์หน้ายังต้องไปรับแม่ที่ลำปาง (ถ้าอาการน้ายังทรงอยู่) วันหยุดพักร้อนก็ใกล้จะหมด เลยต้องใช้วิธีนั่งรถกลางคืนไปรับแม่แทนที่จะขับรถไปเอง ปีใหม่นี้อยากจะฉลองด้วยการนอนมากกว่าง่า........เฮ้อ

Saturday, December 16, 2006

โอ๊ยโย๋ เวรนรก coming soon

อาทิตย์หน้าจะเป็นอาทิตย์ที่เราต้องเหนื่อยสุดๆ เช้าเริ่มงาน 7.30 น. ตอนเย็นเลิกไม่ต่ำกว่า 20.00 ทุกวัน เรียกว่าทำงานไม่ได้เห็นเดือนเห็นตะวันเลยทีเดียว แถมยังต้องเตรียมตัวรับการตรวจโรงพยาบาลคุณภาพขั้น 2 อีก โอ๊ย เหนื่อย เครียด กินข้าว
นิทานเรื่องนี้สอนให้รู้ว่า รักสนุก (ที่ไม่ใช่เที่ยวผู้หญิงอย่างเดียว) ก็ต้องทุกข์ถนัด นั่นแล........อะฮื้อ T-T

Monday, December 11, 2006

กลับมาแล้วจ้า


กระเหรี่ยงต่างแดนกลับมาแล้วครับท่าน งวดนี้ถึงต้องจ่ายจนกระเป๋าฉีก แต่ก็คุ้มกับประสบการณ์และความสนุก เราเองต้องทำหน้าที่หลายๆ อย่าง ตั้งแต่แม่ครัว เนวิเกเตอร์ ยันเด็กปั๊ม (ติดตามอ่านได้ที่ My trip จ้ะ) เสียอย่างเดียวที่ฝรั่งนิวซีแลนด์พูดภาษาอังกฤษไม่ชัด เลยฟังไม่ค่อยรู้เรื่อง (เป็นความผิดของมัน) เพลงประจำการท่องเที่ยวงวดนี้ มีไว้ร้องให้จุ๋ยฟัง คือเพลง โอ้เจ้าหนี้ (ม่ายได้หนี ม่ายได้หาย ไม่มีจ่าย ก็ตังไม่มี...)

Friday, December 01, 2006

อุ๊ย ตาย ว๊าย กรี๊ด มีหนุ่มปีนเข้าหาเค้าล่ะ

เหตุเกิดเมื่อกลางดึกคืนวันพฤหัส 30/11/49 นอนๆ อยู่ที่แฟลต รพ. ก็ได้ยินเสียงแกรกๆ ทีแรกนึกว่าหนูมันคงมาแทะไม้แถวๆ ห้อง ฟังอยู่พักหนึ่งกลายเป็นเสียงผลักมุ้งลวดตรงหัวนอนเราพอดี เลยลุกขึ้นมาว๊าก "ใครวะ" แล้วก็เปิดไฟสว่าง ได้ยินแต่เสียงปีนรั้วหนีออกไป แล้วก็เสียงหมาเห่าตามทาง
เลยโทรไปแจ้งที่ รพ. แล้วก็บอกน้องพยาบาล(จะลงเวรแล้วกลับมานอนห้องติดกัน ตอนเที่ยงคืน) ปรากฎว่าทั้งเวรแห่กันมาที่ห้อง ทั้งคนขับรถ ยาม พยาบาลเวรบ่าย เราถึงได้เปิดประตูออกไปดูผลงานของเจ้าขโมย (กิ๊กก๊อก เพราะตวาดแว้ดเดียว...หายจ้อย) ก็เห็นประตูห้องมีรอยโดนงัด ส่วนบานเกร็ดนอกมุ้งลวดหัวนอนเราโดนดึงออกไปแผ่นนึง มันคงกะล้วงมือเข้ามาเปิดลูกบิดประตูอ่ะ ส่วนต้นไม้นอกรั้วก็มีรอยกิ่งหักเป็นทาง
สรุปว่ามันก็เลยไม่ได้อะไรไป แถมไม่ปล้นสวาทด้วย.....ว้า
แต่พอทุกคนกลับไปแล้วจะนอนใหม่อีกทีนึง ยุงก็เข้ามาเต็มห้องแระ ตบยุงจนจะหลับ ตำรวจก็มาอีกรอบ (ตอนตี 2) ยุงก็เลยเข้ามาอีกรอบ...........ซวย

Sunday, November 26, 2006

โอ้ละหนอเส้นทางนครชัยศรี - ลำปาง

ครั้งนี้ขับรถไปลำปางรวดเดียวเป็นครั้งที่ 2 แล้ว จากการขับ 2 ครั้งได้ฉายาใหม่ว่า"พจนารถจอมหลง" เพราะไม่ได้ใช้เส้นทางซ้ำกันเลย
ขาไปไม่เท่าไหร่เพราะว่ามีป้ายบอกตลอดทาง และใช้เส้นทางสั้นที่สุดจากบ้าน คือ บ้าน - บางเลน - ลาดหลุมแก้ว - สุพรรณฯ - ชัยนาท - นครสวรรค์ - กำแพงเพชร - ตาก - ลำปาง ที่พอขึ้นถนนสายเอเชีย หมายเลข 1 ที่นครสวรรค์ ได้ก็ไปโลด ไม่ต่ำกว่า 120 ชม./กม. เอ๊ย กม./ชม. ใช้เวลาประมาณ 8 ชั่วโมง รวมแวะกินข้าวกะฉี่ตามปั๊มต่างๆ แต่งวดนี้บังเอิ๊ญบังเอิญ ช่วงลาดหลุมแก้ว - สุพรรณฯ ทางปิดเพราะน้ำท่วม ต้องวิ่งอ้อมไปทางวัดไผ่โรงวัว - สองพี่น้อง เสียเวลาไปอีกเป็นชั่วโมง แถมยังมีเนวิเกเตอร์แก่ (แม่เราเอง) คอยบอกว่ามาผิดทางแล้วตลอด (ทั้งที่มีป้ายบอกตลอดทาง) ทำให้ค่อนข้างเครียด (ฉี่ - เครียด - กินน้ำ) ส่วนขากลับยิ่งช้ากว่าเก่าเพราะได้ข่าวว่าน้ำลดแล้ว เลยไม่ไปทางวัดไผ่โรงวัว ก็ปรากฎว่าไปเจอทางเลี่ยงไปโน่น อยุธยา ต้องกลับรถวิ่งตามเขาไป (ไม่ใช่ทางหลักวัดไผ่โรงวัวที่เขาแนะนำ) ที่ยิ่งมายิ่งไม่มีผู้คน แต่ก็มั่วๆ มาออกบางเลน (ทางแย่มาก) จนได้ ขากลับนี่กินเวลาไป 10 ชั่วโมง (ขนาดสายเอเชียวิ่ง 140 เพราะไม่เจอตำรวจ!!) และต้องเอารถไปทำทีหลังเพราะรู้สึกว่าท่อระบายน้ำแอร์จะตันอีก...เฮ่อ ดีอยู่อย่างที่ราคาน้ำมันลดแล้ว แต่ cedia ของเราเนี่ยเติม 95 นะ แถมไม่ชอบกินแกสโซฮอล์ด้วย

กลับมาแร้ว

หลังจากไปทัวร์เยี่ยมญาติที่ลำปางมาตั้งแต่วันอังคาร 21/11/49 จนต้องขยายเวลากลับมาวันนี้ (อดไปเข้าค่ายลดความอ้วนเลย....น่าเสียดาย ฮิ ฮิ) เพราะว่าญาติอีกคนเสีย ก็เลยแห่ไปงานศพที่ จ.เลย กันหมด ทิ้งให้เรากะแม่ดูแลคนป่วยอยู่ที่ลำปาง งวดนี้เลยดูแลจนอ้วนตุ๊บ จากอาหารพื้นเมือง แคบหมู น้ำพริกหนุ่ม แกงกระด้าง แกงฮังเล ยำขนุน แกงแค ฯลฯ enjoy eating สุดๆ และตลาดก็อยู่ห่างบ้านประมาณ 300 เมตร เดินไปเลือกกินทุกวัน อากาศก็เย็นสบายดี เสียอยู่อย่างเดียวที่ญาติๆ ชอบทักทายหยาบคาย อย่างอ้วนขึ้นนะเนี่ย และเมื่อไหร่จะแต่งงานล่ะ? ตอนนี้ก็ได้เวลานับวันรอไปเที่ยวนิวซีแลนด์แล้ว....เย้

Monday, November 20, 2006

ถึงฤดูเดินทางแล้ว



ทายซิว่า 2 รูปนี้ต่างกันตรงไหน??
ช่วงนี้เดินทางเป็นว่าเล่น 21 - 24 พ.ย. ขับรถไปเยี่ยมน้าที่ลำปางกะแม่
25 - 26 พ.ย. ไปเข้าค่ายลดความอ้วนที่พุทธมณฑล
2 - 11 ธ.ค. ขับรถไปเที่ยว New Zealand กะพรรคพวก
ใครที่จะโทรหาเรากรุณาถามก่อนนะว่าอยู่ไหน (ของมัน) เนี่ย
เพราะท่านอาจจะต้องเสียค่าโทรไปต่างประเทศโดยไม่รู้ตัว...ฮ่า

Sunday, November 12, 2006

Oh my god !! ต้องเข้าค่ายลดความอ้วน



ไม่อยากจะเชื่อเลย ว่าที่โรงพยาบาลจะทำโครงการลดน้ำหนักเจ้าหน้าที่ ดังนั้นท่านทั้งหลายรวมทั้งข้าพเจ้าและยัยหมอปุ้ม ที่มี BMI (body mass index) ตั้งแต่ 25 ขึ้นไป จึงต้องไปเข้าค่ายทำกิจกรรมกันที่รอยัลเจมส์ พุทธมณฑล (สงสัยว่าน้ำกำลังท่วมอยู่ป่าว) วันที่ 25 - 26 พ.ย. นี้

สั่งเสียกะเพื่อนร่วมงานแล้วว่าถ้าไม่ให้เรากินข้าวครบ 3 มื้อล่ะก็ เจอเผาโรงแรมแน่........เฮอะ

เป็นคนอ้วนผิดตรงไหน หนักหัวใครฟะ

Sunday, October 29, 2006

ใส่บาตรหลวงน้อง



เดี๋ยวนี้ถึงไม่ได้นอนที่บ้านก็กลับไปบ้านเกือบทุกวันตอนเช้า ไปอาบน้ำ เปลี่ยนชุด (ที่ รพ.ก็มีน้ำให้อาบนา....อย่าเข้าใจผิด) เพราะว่าขี้เกียจ ซักผ้า รีดผ้า เลยต้องหอบตัวเองและเสื้อผ้าใช้แล้วกลับบ้าน แถมยังมีข้าวอุ่นๆ ที่เหลือจากใส่บาตรให้กินอีก

วันนี้กลับไปเร็ว ทันหลวงน้องมาบิณฑบาต (รูปไหนทายดูดิ) เลยได้ถ่ายรูปตอนโยมพ่อกะโยมแม่ (ที่มองแต่กล้องไม่มองพระ) ใส่บาตร พระรูปอื่นคงตลกบ้านนี้........ขนาดจะใส่บาตรยังถ่ายรูปเลยอ่ะ
แต่บ้านเราเนี่ยใส่ตอนพระกลับวัดนา เพราะตอนพระออกบิณฑบาตขาไปอ้ะ ใส่ไม่ทันร้อก ฮี่ ฮี่

Thursday, October 26, 2006

ต้องย้ายเคหะสถานซะแระ

ระยะนี้น้ำท่วมขึ้นมา มั่ก มั่ก มั่ก
ที่บ้านมองเห็นดินอยู่รำไร (ใต้น้ำ) ที่นอนของคนก็พอจะมีอยู่หรอก แต่ไม่มีที่จอดรถ
เราเลยต้องถูกแม่(ที่เป็นห่วงรถมากกว่าลูกสาว) เฉดหัวออกมานอนเฝ้ารถที่ ร.พ.
แถมยังเป็นหน้าเจอีกต่างหาก กับข้าวที่เคยบริบูรณ์ตอนนี้เลยมีแต่ ผัก ผัก ผัก ~ อะฮื้ออออ T-T

Sunday, October 22, 2006

งานบวชน้องชาย 21 - 22 ต.ค. 49






2 วันนี้เหนื่อยมากๆ เพราะที่บ้านคนน้อย (มีอยู่ 4 คน พ่อแม่ลูก) ญาติที่พอจะมาช่วยได้ก็ม่ายมี ดีที่จิ๊บขนครอบครัวมาช่วย แล้วก็คนที่ห้องยาก็พากันมาช่วยฟังเทศน์สอนนาค อีกวันหัวหน้าก็มา (และโดนใช้ถ่ายรูป) ส่วนยัยหมอปุ้มมาทั้ง 2 วัน แล้วก็ดีใจใหญ่ที่วันบวชได้อุ้มหมอนให้นาค (จริงๆ มันไม่มีคนช่วยแล้วตะหาก)

งานนี้พ่อกะแม่ปลื้มใจจนน้ำตาซึม เราเองก็ปลื้ม (แอบเอาเสื้อนาคมาใส่ด้วย) ถึงจะ(กินจน) เหนื่อยไปนิด

แล้วก็ยังดีใจที่เมนูที่เลือกมาแต่ละวันมีแต่คนชมว่าอร่อย

Sunday, October 15, 2006

ถึงวันที่ตะพาบน้อย....ต้องลอยหาย

เมื่อวานขายยาเสร็จแล้ว ยังมีอารมณ์ดีไปหาซื้อตะกร้า (จริงๆ ซื้อขนม แล้วไปเจอตะกร้า) มาใส่เจ้ารัก-ยม พาไปเดินเล่นในบ้าน (ที่น้ำท่วมถึง)
เจ้าตะพาบ 2 หน่อ กระดี๊กระด๊าดีใจ ใต่ตะกร้ากันใหญ่ จนต้องเอาถุงบิ๊กซีมาปิด ที่ไหนได้มันใต่ขึ้นมากัดถุงอีกต่างหาก (เคยบอกแล้วว่าตะพาบดุ)
เลยต้องหยุดการเดินเล่นไว้แค่นั้น คืนนั้นเอง เจ้ารัก (ตัวดุ) คงติดใจรสชาติน้ำแม่น้ำ เลยหนีออกจากอ่างไปตามหาแม่น้ำ
เช้าขึ้นมาเราเลยต้องเสียเวลาอยู่นาน (อยู่เวรซะด้วย) ตามหามันจนเจอ ว่าคลานเข้าไปซุกอยู่ข้างตู้........เกือบตาย
เลยตัดสินใจเอามันไปปล่อยไว้ในบ้าน (ที่น้ำท่วมถึง) ให้พวกมันได้ไปผจญภัยสมใจ
ป่านนี้จะเป็นตายร้ายดียังไงก็ไม่รู้..........โถ T-T

Friday, October 13, 2006

ได้ใบขับขี่สากลมาแร้ว



วันนี้ลางานไปทำใบขับขี่สากลมาแหละ ใช้เวลาทำแค่ 10 นาทีเอง (น่าปลื้มใจกับระบบราชการไทย T-T)

แต่ใช้เวลาเดินทางตั้ง 2.5 ชั่วโมง (รวมทั้งหลงไปที่หมอชิต 2 ด้วย)

ขากลับมาแวะพันทิพย์ ไปเกาะตู้กระจกดูบรรดาสินค้า IT น้ำลายยืดอีกเช่นเคย.....เฮ่อ แต่ก็ได้มาหลายอย่างอยู่ อย่าง memory stick ขนาด 2 GB , handy drive 512 MB , internet 128 hrs เงินเดือนเดือนนี้ (หลังจากหักหนี้แล้ว) หมดเรย........อู T-T

Thursday, October 12, 2006

ชั่งใจ


วัน 2 วันมาเนี่ย มีเรื่องให้หัวใจต้องแกว่งไกว

.........ป่าว.......ไม่ใช่ผู้ชาย

แต่เป็นเรื่องที่หมอที่รู้จักกันจะเซ้งร้านขายยาให้

ก็เลยกลับมาคิดๆ ดูว่าจะทำเลยดีมั๊ย เพราะวางแผนไว้ว่าอีก 2 ปี (ขึ้นคานแน่ๆ แล้ว) พอให้เที่ยวจนหนำใจ ค่อยขยับขยายไปเป็นอาซิ้มเฝ้าร้าน พอโอกาสเข้ามาเร็วกว่ากำหนด ตาชั่งในใจที่ข้างหนึ่งแขวนการท่องเที่ยว กับอีกข้างหนึ่งแขวนธุรกิจร้านยาเอาไว้ ก็เลยต้องเอียงไปเอียงมา

พอเอาเรื่องไปปรึกษาพ่อกะแม่ พ่อก็บอกคำเดียวว่า "ตามใจ" (แล้วเงินล่ะพ่อ -_-') วันนี้ก็เลยกลับไปถามรายละเอียดต่อ ปรากฎว่าหมอแกจะเซ้งเฉพาะยาและตู้ยาในร้าน ส่วนร้านให้เช่าแค่ชั้นล่างชั้นเดียว คิดราคาตั้ง 6 - 7 พันต่อเดือนแน่ะ เราก็เลยคิดว่าแพงไปเพราะบ้านนอกอย่างเงี้ย เช่าได้ทั้งตึก

กลับมาเล่าให้พ่อกะแม่ฟังอีกครั้ง ก็เลยสรุปได้ว่า คุณแม่ไม่ปลื้ม......จบ

ตาชั่งท่องเที่ยวของเราก็เลยเอียงวูบ ดีดร้านออกไป ปล่อยให้เรากลับเป็นยาจก (หมดตัวไปกับการเที่ยว) เหมือนเดิม

Saturday, October 07, 2006

สนามบินสุวรรณภูมิ




วันนี้ไปเยี่ยมชมสนามบินสุวรรณภูมิ "ความภูมิใจของคนไทยทั้งชาติ" กับอ๋อยและปริญญ์
คนบางตากว่าที่คิดไว้เพราะมีการประกาศว่าอย่าไปเที่ยวกันเยอะเลยเพราะจะทำให้วุ่นวาย แต่บางคน (เช่นพวกเรา) ก็ยังพอมีไปเดินเล่นถ่ายรูปกันให้เห็น


ซ้าย - หอบังคับการบินที่สูงที่สุด
กลาง - สนามบินสุวรรณภูมิ (ใครจะเชื่อว่าเป็นหนองน้ำ)
ขวา - รถรับส่งผู้โดยสารจากสนามบินไปจุดจอดรถแท๊กซี่

Friday, October 06, 2006

น้ำท่วมแล้วเจ้าข้าเอ๊ย


หมู่นี้ฝนตกได้ตกดี จนบ้านริมแม่น้ำของเรา จวนจะกลายเป็นบ้านในแม่น้ำอยู่รอมร่อ
แต่ก็ช่างเหอะมันเป็นอย่างงี้อยู่ทุกปีจนชินแระ
จะมีก็แต่ปีนี้ที่แม่เราใกล้สติแตกเข้าไปทุกที เพราะกลัวว่าวันงานบวชน้องชายจะฝนตกบ้างล่ะ น้ำจะท่วมสูงบ้างล่ะ ว่าแล้วก็ใช้เรากะพ่อขนของหนีน้ำกันเป็นการใหญ่

เราเลือกของเบา (มะพร้าวแห้ง) โดยหารู้ไม่ว่ามันเป็นแหล่งซุกซ่อนของลูกตะขาบ
กว่าจะขนเสร็จ มันก็ขึ้นมาไต่เล่นบนขาเรา....อึ๊ย
แต่ก็กำจัดมันไปแระ กระดูกคนละเบอร์ก็เงี้ย

Monday, September 25, 2006

Ipsen's line

"Why did you come with me?"
Hey, that's 'Ipsen's line'

Ipsen is a character from a play, but he's a real life adventurer. I think the play is base on his adventures.

It kind of gose like this...

Ipsen and his good friend Colin worked at a tavern in Treno.
One day, Ipsen got a letter. The letter was so wet from rain that most of the writing was illegible.
The only part he could read said "Come back home".

Nowadays, we have airships and stuff, but back then it was really hard to travel.

He did'n no why he had to go back, but he got sometime off, gathered his things, and set out on this journey home.
He walked a thousand leagues through the mist.
Sometimes he was attacked by vicious monsters, but he made it, because his friend Colin was by his side.

And then, after much time on the road.....
He had to ark Colin something.
"Why did you come with me?"

"Only because I wanted to come with you"

#Final Fantasy IX#

สำนวนโดนๆ (Eng)

No matter how you look on the outside,
You are you ! and that is what is important.

#Chrono Cross#

*********************************************************

No matter how difficult something seems
and how impossible other people seem to think it is,
anything is possible

#Robert Langer#

*********************************************************

Just when you think that you've forgotten about something,
it comes floating back into your heart.
I guess it's just lying there and wait.
Waiting for the right moment.......
Why, we might even remember this every moment someday.

#Chrono Cross#

*********************************************************

There are many paths.
Remember that you alone choose the path on which you walk.
Well...In the end, it boils down to two simple choices.
Either you do or you don't.
The choice is yours.

#Final Fantasy IX#

*********************************************************

Those which free will shall always find something worthwhile.
Go and do as you please.

#The Legend of Mana#

Friday, September 22, 2006

สำนวนโดนๆ (มิตรภาพ)

ที่ซึ่งมีมิตรแท้ จักอบอุ่นและเจิดจ้า
มีแต่มิตรสหายผู้รู้ใจ ผู้สามารถแบ่งปันความสุขและแบกรับความทุกข์ของท่านได้ จึงคู่ควรกับการทะนุถนอม
ในใต้หล้าขอเพียงมีน้ำมิตรคงอยู่ จะเจิดจ้าเรืองรองตลอดกาล

๐วีรบุรุษสำราญ๐ โกวเล้ง

***********************************************************************************

คบเขาเพื่อความสบายใจของเราที่ให้น้ำใจไมตรีต่อเขา
ไม่ใช่หวังว่าเขาจะเป็นเพื่อนที่ดีเลิศของเรา

๐อมตะ๐

***********************************************************************************

เพื่อนคือคนที่รู้จักเราทุกซอกทุกมุม และยังรักเราไม่เปลี่ยนแปลง

๐สิทธิของสัตว์๐ ม. มธุการี

สำนวนโดนๆ (กำลังใจ)

หนูอย่าไปกังวลอะไรอีกเลยลูก
มนุษย์ควรจะกังวลต่อเมื่อทำอะไรโดยไม่ไตร่ตรอง
แต่หนูไตร่ตรองล่วงหน้า ตัดสินใจแล้ว
หนูก็ต้องแน่ใจว่าที่ทำไปแล้วดีที่สุด
ถึงแม้ในภายหลังอาจจะมีความผิดพลาด หนูก็อย่าเสียใจ
เพราะขณะที่ทำลงไปนั้นเป็นการดีที่สุดแล้ว
ถ้าหนูกังวลในเรื่องที่ทำ และทุกเรื่องที่ตัดสินใจ
หนูจะมีความสุขกับชีวิตได้อย่างไร
จำไว้เถอะลูก........คิดก่อนทำ
และเมื่อทำแล้วต้องกล้าเผชิญหน้ากับสิ่งที่จะตามมา
นั่นแหละลูก คือวิถีทางของคนกล้า

๐พ่อครัวหัวป่าก์๐ กนกเรขา
*******************************************************
หัวร่อมิเพียงสร้างความรื่นเริงหฤหรรษ์แก่ผู้คน
ยังเพิ่มพูนความกล้าและความเชื่อมั่นในชีวิตแก่ท่าน
อย่าว่าแต่ท่านหากรู้จักใช้รอยยิ้มประจันกับชีวิตมนุษย์
จะค่อยๆ พบว่าในใต้หล้ามิมีปัญหาใดที่คลี่คลายไม่ได้

๐วีรบุรุษสำราญ๐ โกวเล้ง
*******************************************************
“ความแข็งแกร่ง” น่ะ ไม่ได้วัดด้วยกำลังหรอก
ความเห็นอกเห็นใจคนอื่น ความกล้า ความมานะบากบั่น
ความมุ่งมั่นที่จะก้าวเข้าไปสู่โลกที่ยังไม่รู้อย่างไม่หวาดหวั่น
ทุกสิ่งที่นายมีอยู่ตอนนี้นั่นแหละ คือความ “แข็งแกร่ง” อย่างแท้จริง

๐โกโต้ ประธานเลือดเดือด๐
*******************************************************
เรื่องราวต่างๆ ในชีวิตของคน มักไม่ได้ใหญ่หรือเล็กด้วยตัวของมันเอง
มันขึ้นอยู่กับแกให้ความสำคัญกับมันมากน้อยแค่ไหนต่างหาก
ถ้าให้ความสำคัญกับมันมาก....มันก็กลายเป็นเรื่องใหญ่มาก
ถ้าให้ความสำคัญกับมันน้อย....มันก็เป็นเรื่องเล็กน้อย

๐ดอกแก้วการะบุหนิง๐ แก้วเก้า
******************************************************
“จำไว้จอห์น...เราจะเลือกเดินทางไหนก็ได้
หรือจะเปลี่ยนทางเดินไปสายไหนก็ได้ หากหัวใจเราอยากทำ
สิ่งเดียวที่เราควรพิจารณาก็คือ
เส้นทางสายนั้นมีหัวใจหรือเปล่า
ถ้ามี.......เดินไปเถอะ......”

๐สะพานดาว๐ ทมยันตี
*******************************************************
คนเข้มแข็งต้องมีลักษณะ 4 ประการ
ต้องไม่รู้จักบ่นและร้องทุกข์
ไม่ต้องการทราบว่า คนอื่นจะคิดเห็นว่าตนเป็นประการใด เพราะต้องมั่นใจตนเองว่า ทำดีที่สุดเสมอ
ไม่บอกความลับของตนแก่ใครและไม่ต้องการรู้ความลับของใคร
อย่าคิดว่าตัวเองมีแต่เคราะห์ร้ายเพราะจะทำให้ท้อถอย เราต้องพยายามใช้เคราะห์กรรมทุกชนิดให้เป็นประโยชน์แก่ตัวเองให้ได้

๐มงกุฎที่ไร้บัลลังก์๐ ทมยันตี
*******************************************************
คนที่ทำให้คนอื่นมาสนใจได้ต้องมีดีที่ไหนซักแห่ง
ข้อดีที่ว่า......เป็นเพราะจิตใจดีและมีน้ำใจมั้ง
เป็นคนเข้มแข็งมีชีวิตอยู่อย่างร่าเริง ไม่ใส่ใจเรื่องเล็กน้อย

๐Frame of Recca๐
*******************************************************
ตามธรรมชาติของมนุษย์น่ะ
เวลาถูกทำร้ายก็ต้องจดจำอาฆาตและจ้องทำร้ายตอบเมื่อโอกาสมี
แต่สำหรับลูกจะยอมให้ธรรมชาติแบบสามัญนั้นมามีอำนาจเหนือไม่ได้เป็นอันขาด
ลูกต้องยิ้มรับศัตรู ต้องทำเสมือนหนึ่งไม่เจ็บปวดเมื่อเขาทำร้ายด้วยวาจาหรือการกระทำ
และเมื่อลูกจะตอบแทนความร้ายกาจของเขา
ลูกต้องคิดสองตลบ อย่าให้เขารู้ทันเป็นอันขาด
ลูกต้องโหดเหี้ยมบ้างเป็นบางครั้ง
แต่ขอให้ระลึกอยู่เสมอว่า เราเป็นพุทธศาสนิกชน อะไรที่ไม่ควรร้ายก็อย่าร้ายนะลูก
คนใจบริสุทธิ์แน่วแน่อยู่ในความดีไม่มีวันตกต่ำ

๐สองฝั่งฟ้า๐ นิดา
*******************************************************
ผลลัพธ์ไม่ใช่สิ่งสำคัญของชีวิตคนเรา
แต่ขั้นตอนที่จะไปถึงจุดนั้นต่างหากที่สำคัญกว่า

แม้ว่าความเป็นไปได้จะเกือบเป็นศูนย์
แต่ตราบใดที่ยังมีความเป็นไปได้อยู่ก็ควรจะเพียรพยายามทำให้ความฝันกลายเป็นความจริง

๐ต๊องแน่ แต่อัจฉริยะเรียกพี่๐
*******************************************************
ผมไม่ยึดถือว่าต้องค้นหาตัวตนให้พบ
คุณจะรู้ได้อย่างไรว่าใช่
ผมเป็นพวกที่ไม่พยายามดิ้นรนค้นหา ในที่สุดตัวตนของคุณจะออกมาเอง
เพียงแต่ต้องอย่าทิ้งโอกาส หนักเอาเบาสู้
อย่าไปคิดว่าเขาทำน้อย เราทำเยอะ
ประเภทที่ตรงนี้ไม่ใช่เรา ขอไปตรงโน้นดีกว่า
ตรงโน้นก็ไม่ใช่ ไปตรงนั้นเถอะ
ปรากฏว่า กว่าจะพบตัวตนก็ไม่ได้อะไรเป็นชิ้นเป็นอัน
คุณแค่รักษาลู่ของตัวเองเอาไว้ แล้วทำในสิ่งที่ต้องทำอย่างตั้งใจดีกว่า
ถ้าจะเจอเดี๋ยวเจอเองแหละ

๐กรรมกรข่าว๐ สรยุทธ สุทัศนจินดา
*******************************************************
ชีวิตของคนเรา บางทีก็มีอดีตที่ไม่ดีเหมือนกัน
แต่ว่าถ้าไม่อยากถูกอดีตที่ไม่สามารถลืมทิ้งได้นั้นคอยกดข่มละก็
เราต้องค้นหาเป้าหมายใหม่และมุ่งไปข้างหน้าเท่านั้นไม่ใช่หรือ

ความอ่อนแอหรือเข้มแข็งมิได้วัดกันที่ความกลัวหรือความกล้าอย่างบ้าบิ่น
หากอยู่ที่กำลังใจในยามที่ผจญกับเรื่องราวอันเลวร้าย
การเตรียมตัวให้พรักพร้อมและการต่อสู้อย่างมีสติปัญญาต่างหาก

๐พระจันทร์ทะเลทราย๐ ประภัสสร เสวิกุล

สำนวนโดนๆ (Love)

คุณอาจจะรักใครซักคนโดยไม่ต้องเข้าใกล้เขาเลยก็ได้
รักอยู่ห่างๆ ด้วยความจริงใจและปรารถนาดี
ในทำนองเดียวกัน
คุณอาจจะเอาอกเอาใจใครซักคนอย่างมากมายก็ได้ โดยไม่ได้รักเลยแม้แต่นิดเดียว

๐วสันต์ลีลา๐ แก้วเก้า

**********************************************
ถ้าถามว่า ผมรักข้าวฟ่างแบบไหน.........ผมตอบไม่ถูก
แต่สำหรับผม
ผู้หญิงคนหนึ่งเหมือนน้ำใส....เหมือนสายลม....เหมือนร่มไม้
เราอาจไม่ทันคิดว่าสิ่งเหล่านี้เป็นของวิเศษมหัศจรรย์เหมือนสวรรค์ชั้นฟ้า
แต่ทุกครั้งที่ได้สัมผัส เราจะชุ่มชื่นใจอย่างบอกไม่ถูก
และถ้าหากว่าขาดไป
เราก็แห้งแล้ง ร้อนกระวนกระวาย ต่อให้มีอย่างอื่นมาแทนก็ไม่เหมือน
นั่นแหละความรู้สึกที่ผมมีต่อข้าวฟ่าง

๐โสดสโมสร๐ ว.วินิจฉัยกุล
***********************************************
ลงว่าผู้หญิงชื่นชมชายใดแล้ว ย่อมแสดงออกอยู่ 4 ประการ คือ
เคล้าเคลียเหมือนแมว
หึงหวงเหมือนนางเสือ
ปกป้องเหมือนเหยี่ยวใหญ่
และ พร่ำรำพันเหมือนนกแขก
***********************************************
"เรื่องคู่ควรกับเรื่องรักต่างกัน" ความเป็นผู้หญิงทำให้แยกได้ละเอียด
"เหมือนหน้าที่กับความรับผิดชอบ
คนเรา.....เมื่อมีหน้าที่ต้องมีความรับผิดและชอบ
ถ้าริตจะรักใครก็รัก เรื่องคู่ควรหรือไม่เป็นอีกเรื่องหนึ่ง
เพราะถ้ามันขัดข้อง เราก็รักฝ่ายเดียวก็ได้
ความรักเป็นความสุขนะลูก ไม่ใช่ความทุกข์
แต่ต้องรักโดยไม่หวังผลตอบแทน"

๐โสมส่องแสง๐ โรสลาเรน

Wednesday, September 20, 2006

20 ก.ย. 49

วันนี้วันเกิดยัยหมอปุ้มทั้งที แต่ดันมีรัฐประหาร

เช้าขึ้นมาก็มีข่าวยึดอำนาจของคณะปฏิรูปการปกครองในระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์เป็นประมุข (เป็นชื่อคณะรัฐประหารที่โครตยาว)
และประกาศให้วันนี้เป็นวันหยุดราชการ แต่แย่ตรงที่เราดันเวรเช้าจะมางดเอาก็ใช่ที่ เลยต้องไปทำงาน
ไปถึงเจอคนไข้อยู่เต็มๆ และทำท่าจะทยอยกันมาเรื่อยๆ (แต่คนในทำท่าจะทยอยกันกลับเรื่อยๆ)
เหนื่อยกว่าวันปกติอีก (เพราะคนน้อย)...........เฮ้อ
แถมยังต้องไปขายยาอีก..........เฮ้อ

ปฏิวัติทั้งที ทำไมพลเรือนอย่างเราเหนื่อยอย่างนี้
..........เป็นทหารก็เท่ดีนะ ^_^

Saturday, September 16, 2006

My Pets

รูปนี้เจ้ารักถ่ายกับอ่างอันใหญ่โตของมัน

สัตว์ประหลาดที่เห็นนี่คือสัตว์เลี้ยงของเราเองแหละ เป็นตะพาบน้ำ ชื่อว่า รัก – ยม ค่าตัวของมันตอนแรกซื้อที่ตลาดนัดแบบแพคคู่ 10 บาทพอดี เท่ากับขนาดของร่างกายที่แต่ละตัวเท่ากับเหรียญ 5 บาท เลี้ยงไปเลี้ยงมา 5 – 6 เดือนก็ตัวใหญ่เท่าเหรียญ 10 บาท แน่ะ (เพราะคนขายบอกว่าให้เลี้ยงด้วยอาหารปลาซากุระ) มาตอนหลังนี่เองถึงได้โตพรวดพราด (ขนาดเท่าแบ๊งค์พันพับครึ่ง) หลังจากที่สอบปากคำคนเลี้ยง (พ่อเราเอง) ปรากฎว่าแอบให้มันกินเนื้อสัตว์นี่เอง (มันเลยเมินซากุระคลอโรฟิลของเรา.......ชิ) ที่ซื้อมา 2 ตัว เพราะกลัวว่ามันจะเหงา..เครียด..กินเหล้า เอ๊ย ตาย แต่กลายเป็นว่า เจ้ารัก (ตัวห้าว) ไล่กัดเจ้ายม (ตัวจ๋อย) จนคอเป็นแผล เลยต้องแยกกันไว้คนละอ่าง (ตั้งอ่างไว้บนโต๊ะกินข้าว ให้มันชินเวลาขึ้นโต๊ะ) อ่างที่ใส่ในตอนแรกคงจะเล็กเกินไป ทำให้เจ้ารักหนีออกจากอ่างตอนกลางคืน คลานลงมาแอ้งแม้งนอนแห้งอยู่ที่พื้น ดังนั้นจึงต้องเปลี่ยนที่อยู่ให้มันใหม่เป็นอ่างขนาด 2 ลิตร (แต่ของเจ้ายมใช้ขนาดเดิม) จากนั้นมันก็ทำตัวดีขึ้น คอยยืดคอทักทายถ้าเราเข้าไปใกล้ๆ แต่ถ้าไม่ให้มันกินเนื้อ มันก็จะสะบัดหน้า หดคอ มุดเข้าไปใต้สาหร่ายตามเดิม และคอยกัดมือพ่อเราตอนเปลี่ยนน้ำให้มันทุกเช้า (อย่างว่าแหละ ลูกสาวสวย ตะพาบเลยดุ อิ อิ) ที่จริงเราก็เริ่มติดใจสัตว์เลี้ยงตลาดนัดมาตั้งแต่บัดนั้น เพราะหลังจากนั้นก็ซื้อปลาคราฟมาอีก 1 คู่ (ชื่อ เซเว่น กับ อีเลฟเว่น) แต่แค่วันรุ่งขึ้น อีเลฟเว่น ก็หงายท้องลอยอืด (เลี้ยงไว้อ่างใหญ่กับตะพาบดุ) อาทิตย์ต่อมา เซเว่นก็อำลาไปเยี่ยมอีเลฟเว่นบ้าง

Wednesday, September 13, 2006

Invitation to my link (My Trip)

วันนี้อุตส่าห์หยุดงานและหนีประชุม เพื่อมาเขียนบล๊อคโดยเฉพาะเลยค่า เพราะว่าอากาศดี๊ดี มีฝนเล็กน้อยถึงปานกลาง
แล้วก็อ้างกับเพื่อนร่วมงานว่าท้องเสีย (อีกแล้ว) ซึ่งทุกคนก็เชื่ออย่างสนิทใจ
~ รู้แล้วเหยียบ (ให้กระจาย) นะ ~
ตอนนี้ทำ link ไปที่บล๊อคใหม่ของเราไว้แล้ว เป็นบันทึกการท่องเที่ยว
และจะพยายามเข้าไปอัพเดทค่ะ (แบบไม่ต้องหยุดงานมาทำอ่ะ)

Monday, September 11, 2006

Welcome to my blog

สวัสดีค่า นี่เป็นครั้งแรกที่เริ่มทำบล๊อค
หวังว่าคงให้อภัยหากมีปรากฎการณ์แหม่งๆ ที่หน้าจอของท่าน
ขอให้สนุกกับการเที่ยวชมบล๊อคนี้นะคะ
พจ