Monday, February 11, 2008

Valentine's tag


1. ถ้าไม่เลือกสีชมพูเป็นสีของวันแห่งความรัก แล้วจะเลือกสีอะไรดี และทำไม
สีแดง เพราะเป็นสีโปรด...ม่ายช่าย เพราะเป็นอีกสีของความรัก รุนแรง เร่าร้อน และพร้อมจะเผาผลาญคู่รัก (ให้พวกมันกลายเป็นจุลไปยิ่งดี...อิจฉาเฟ้ย)

2. นิยามความรักฉบับของตัวเองมาซัก 3 ข้อ และอธิบายสั้นๆ
1. เข้าใจ – ความรักความเข้าใจมันก็มาพร้อมๆ กันน่ะแหละ ถ้าไม่เข้าใจแล้วรักมันก็เป็นแค่ความหลงเท่านั้น
2. ปกป้องคุ้มครอง – ไปติดใจนิยายที่ประดาพระเอกสุดเก่งทั้งหลายเค้าดูแลปกป้องนางเอก ก็เลยอยากให้ความรักของตัวเองเป็นแบบภาวะที่ต้องพึ่งพาอาศัยบ้างอ่ะ
3. ความสุข – เพราะความรักเป็นความสุข ถ้ารักอย่างมีสติ ปรารถนาให้คนที่เรารักเป็นสุข “ไม่มีอะไรที่ดีไปกว่า ของรักของเราอยู่ในที่สูงและปลอดภัย – ทมยันตี” ตอนนี้ตัวเองก็อยู่บนที่สูง (คาน) และ (หน้าตา) ปลอดภัย....ฮี่

3. ในวันแห่งความรักที่จะมาถึงนี้จะโทรไปบอกรักใครเป็นคนแรก และเพราะอะไรถึงเลือกเค้าคนนี้
โห...คงมีคนให้โทรหรอก...หนุ่มจะโทรมาหาในวันนั้นยังไม่มีเลยม้าง...เศร้า

4. ถ้าจะต้องซื้อของขวัญ 1 ชิ้นให้กับคนที่เรารักจะซื้ออะไรให้ดี และเพราะอะไรถึงเลือกของขวัญชิ้นนี้ให้
ก็ต้องให้..ในสิ่งที่เขาอยากได้ ถึงจะเป็นสิ่งที่ดีที่สุด (ถ้ามีปัญญาซื้ออ่ะนะ)
แต่ของขวัญสำหรับวาเลนไทน์แรก (และแฟนคนแรก..เมื่อปูนนี้) คงจะเป็นสิ่งของที่เป็นรูปหัวใจ แทนหัวใจของเรามอบให้อ่ะ (น้ำเน่าไปป่าวเนี่ย)

5. ถ้าให้เลือกว่าในวันแห่งความรักจะไปเดทกับใครก็ได้ จะเลือกไปเดทกับใคร
ขอนอนอยู่บ้าน และเล่นกับหมา ไม่ต้องไปทำงานซักวันได้มั๊ย
แต่ถ้าจะออกไปเดทจริงๆ ขอไปกับซุนโงกุน (มีลูกเมียแล้วก็ไม่เป็นไร) จะได้ขี่หลังบินรอบโลก และกินไม่อั้นตามโงกุนอ่ะ...ฮี่ ฮี่

น้องหมา ซ่ากำลัง2




เจ้าหมา 2 ตัวเริ่มคุ้นกับบ้านใหม่แล้ว

และก็มีชื่อใหม่ (อีกครั้ง) ว่า มอม - แมม

หลังจากที่พ่ออุดรั้วจนมัน (คง) มุดออกไปไม่ได้ ก็ปล่อยให้วิ่งเล่นกันในบ้านตามสบาย

วิ่งไปวิ่งมา ตามพ่อไปช้อนปลาในกระชังหน้าบ้าน จนตกน้ำ!!

ทีแรกพ่อก็ไม่เห็น เพราะต้องหิ้วปลากลับเข้ามาในบ้าน ได้ยินแต่เสียงดัง "ตุ๋ม"

มองไปทางลูกหมา ...เหลืออยู่ตัวเดียว -_-'

อีกตัวลงไปตะกายอยู่ในน้ำ ต้องไปช้อนขึ้นมา..เหมือนปลา

แต่ยังไงก็ไม่เข็ด หลังจากนั้นก็ยังซนกันได้เหมือนเก่า

ยิ่งตอนที่เราอยู่บ้าน ยิ่งเห็นกันไม่ได้ ต้องมาตะกาย เลียทำความสะอาดให้ทั่วตัว ทั้งหน้าตา หัวหู

จับได้ตัวหนึ่ง อีกตัวก็มาทำหน้าที่แทน.....เฮ่อ

เอาพฤติกรรมไปฟ้องพี่ปลา เจ้าของเก่า ตบท้ายด้วยการบอกว่า "หัดว่ายน้ำให้มันแล้วนะพี่"

ทุกคนเอาแต่หัวเราะ แล้วก็บอกว่า หมามันก็นิสัยเหมือนคนที่จับมาอ่ะแหล่ะ......แป่ว

Thursday, February 07, 2008

พาสปอร์ตใหม่ กะใจดวงเดิม


ตั้งชื่อแนวละครเกาหลีอีกแระ แต่ไม่มีอะไรเกี่ยวข้องกับละครเกาหลีเลย นางเอกไม่ได้ตายตอนจบ พระเอกไม่ได้พลัดพรากจากนางเอกมาหลายปี ฯลฯ


แค่วันนี้ต้องลาครึ่งวันและแหกขี้ตาตื่นพาแม่ และมีอ๋อยไปด้วย ไปทำ e-passport กันถึงกระทรวงวัฒนธรรมโน่น


ดีที่ไปแต่เช้าไม่เจอรถติด ไม่งั้นอาจจะมีเฉี่ยวชนได้ เพราะขับเอง และขับช้าไม่เป็น !!


ขับไปพลางก็คอยดูว่าอ๋อยจะนั่งน้ำลายฟูมปากเหมือนเจ้าฟัก-แฟงที่นั่งมากับรถเมื่อ 2 วันก่อนหรือเปล่า


ขนาดมาแต่เช้ายังได้คิวที่ 27 - 28 โน่น กว่าจะทำเสร็จก็ 9.30 แต่ก็ถือว่าเร็วแล้วล่ะ


รูปถ่ายติด passport งวดนี้ดูไม่จืดอีกตามเคย มีดีอยู่อย่างเดียวคือ ส่วนสูงเพิ่มขึ้น 2 ซม. (หัวฟูก็ดีตรงเนี้ย)


คราวนี้กะจะพาคุณนายสุนีย์ไปเที่ยวเมืองจีน ให้คุยกะชาวบ้านได้ว่าตูก็ไปเที่ยวเมืองนอกมาเหมือนกันเฟ้ย


นาน น้าน จะกตัญญูกะบุพการีซะที ^_^




Tuesday, February 05, 2008

ต้อนรับสมาชิกใหม่

ตอนนี้ที่บ้านมีสมาชิกใหม่ 2 ตัวด้วยกัน

เป็นน้องหมาบางแก้วพันธุ์ทางตัวเมีย อายุ 3 เดือน

พี่พยาบาลที่ รพ.ให้มา หลังจาก (อ้อนวอน)ขอมาเมื่อ 2 เดือนที่แล้ว

จริงๆ กะจะให้น้องชาย 1 ตัว แต่ไหนๆ ก็ไหนๆ เอาหมดเลย 2 ตัวก็แล้วกัน

ทีแรกแม่ตั้งชื่อไว้ว่า ตาล กะ ตุ่น (ส่วนที่เราตั้งชื่อก็มี หอยลาย - หอยแมงภู่, สร้อยฟ้า - ศรีมาลา ฯลฯ ...แน่ใจนะว่าชื่อหมา)

แต่สงสัยจะเรียกยาก แม่เลยเปลี่ยนภายใน 24 ชั่วโมงเป็น ฟัก - แฟง

คาดว่าหมามันคงงงๆ อยู่ ว่าตกลงชื่ออะไรแน่ เพราะทุกคนเรียกตามใจฉัน

ส่วนเราจำตัวหมาไม่ได้ เลยเรียกตามสีปลอกคอ คือ เขียว - แดง -_-'

ที่แน่ๆ คือมันซนสุดๆ เลี้ยงได้ 2 วัน ตัวเราลายเป็นแตงไทยเลย (โดนข่วน)

ไม่รู้ผูกใจเจ็บตอนไปรับมันมาหรือเปล่า ที่จริงก็ไม่ได้ขับเร็วอะไรนะ แต่มาถึงบ้าน ทั้ง 2 ตัวน้ำลายฟูมปาก มีอ้วกนิดหน่อยอีกต่างหาก

Sunday, February 03, 2008

1 - 3 ก.พ. 51 ไปทำบุญที่ลำปางมา

ปีนี้เปิดศักราชมาก็ได้ขับรถไกลเลย (ที่จริงปีที่แล้วไปก่อนช่วงนี้ และไปถี่ด้วย)

ไปทำบุญครบวันตาย 1 ปีให้น้านิด
คราวนี้พ่อไว้ใจ ให้ขับไปกับแม่ 2 คน หลังจากไปเช็คสภาพรถ (ที่จ่ายไปแค่ 290 บาท ไม่เหมือนโตโยต้าของบางคน..ฮี่ ฮี่) จนพร้อมก็เดินทางได้

เมื่อปีที่แล้วขับไปหลายครั้ง คราวนี้เลยแม่นมากเรื่องเส้นทาง (แต่ยังหลับตาขับไม่ได้นะ) ปั๊มน้ำมันอยู่ตรงไหนบ้าง

แต่งวดนี้เห็นแล้วก็ใจหาย เพราะปั๊มรายทางปิดไปหลายปั๊ม รวมทั้งบางจากที่เราชอบแวะกินข้าว (แต่ไม่เติมน้ำมัน) ที่ร้านนัดโภชนา นครสวรรค์

เลยไม่ประมาท เติมน้ำมันจนเต็มถัง และก็ไม่รอให้น้ำมันจะหมดไม่หมดแหล่เหมือนก่อน

คุณนายสุนีย์ยื่นคำขาดว่าไม่ให้ใช้บัตรเครดิตเติมน้ำมัน เลยต้องพกเงินไปเยอะหน่อย

ระหว่างทางยังเจอฝนตกหนัก ขนาดต้องเปิดไฟวิ่งอีกต่างหาก ทางด้านน้องชายที่มาจากโคราช ใช้เส้น จ.เลย ก็เจอมาเหมือนกัน

โดนเรียกตรวจใบขับขี่พร้อมทั้งสั่งสอนว่าอย่าขับเร็วสิครับ แค่หนเดียวเอง (ทุกทีโดน 4 หน ไป 2 กลับ 2) เพราะงวดนี้เป็นเด็กดีขับแค่ 110 ไม่เหยียบ 130 - 140 เหมือนก่อน

ขับไม่เร็วก็ประหยัดน้ำมันได้อีกระดับหนึ่งเหมือนกัน

ยังยิ้มให้กล้องตรวจจับความเร็วตอนขากลับที่ จ. ตากเลย (แต่ลืมชู 2 นิ้วด้วยสิ)



คราวนี้ลุงหาวัดให้พวกเราทำบุญเป็นคนละวัดกับที่ทำบุญ 100 วัน

ชื่อวัดสิงห์ชัย อยู่ข้างบ้านเก่าที่แม่เคยอยู่กับตายายก่อนแต่งงาน

ตอนเรายังเด็กก็ยังจำได้ว่าไปหลายครั้งอยู่


และก็ติดใจสิงห์ (ที่ไม่คล้ายสิงโต) หน้าวัด ที่เป็นศิลปะทางเหนือ แต๊ๆ

คราวนี้เลยถ่ายรูปมาด้วย


พูดถึงบ้านที่วัดสิงห์ชัย เมื่อก่อนผู้คน รวมทั้งลูกพี่ลูกน้องเราที่เป็นผู้อาศัย เรียกบ้านหลังนี้ว่า "บ้านผีสิง"

เนื่องจากอยู่ข้างวัด 1 และมีประวัติอันยาวนาน 1

และสำหรับเราเองที่อายุยังไม่ถึง 8 ขวบ ก็มีประสบการณ์ทางวิญญาณ? หนแรกก็ที่บ้านนี้แหละ

จะเรียกว่าโดนผีหลอกก็ไม่ถูก เรียกว่าทักทายน่าจะเหมาะกว่า เพราะรู้สึกว่ามีใคร (ทั้งที่ไม่มีใคร) มาตบที่บ่า ตอนที่ให้ลูกพี่ลูกน้องแบกขึ้นหลัง (จะเห็นว่าเด็กขนาดที่คนแบกได้) ขึ้นบันไดบ้านไปชั้นบน

พอโวยวายสติแตก ก็มีคนปลอบว่าสงสัยคุณตามาทัก....

ก็เลยหายกลัว? แต่ก็ไม่กล้าขึ้นบันไดคนเดียวอีกเลย

หลังจากนั้นก็ยังไปอีกหลายหนตอนปิดเทอม แต่จำไม่ได้แล้วว่าเจออะไรอีกหรือเปล่า

พอไปงวดนี้..เห็นตรงที่เคยเป็นบ้านเก่า กลายเป็นอาคารพาณิชย์แล้วก็ปลง

ปล่อยให้อารมณ์คนแก่เข้าครอบงำอยู่พักนึงว่า ที่ตรงนี้ เมื่อก่อนมีบ้าน มีต้นไม้ และหลายๆ อย่างที่พอจำได้ และเคยมีเรา (ที่น้ำหนักน้อยกว่า 30 กิโล) วิ่งเล่นอยู่ ...เดี๋ยวนี้ไม่มีแล้ว

เหมือนกับราคาน้ำมันที่เคย 14 บาท/ลิตร... เดี๋ยวนี้ก็ไม่มีแล้ว


หักมุมจบเกินไปมั๊ยเนี่ยเรา ^-^