Thursday, August 02, 2007

เรื่องเล่าจากที่ทำงาน

ชอบไปอ่านเรื่องในสำนักงานของหมูปิ้งใน bloggang แล้วฮาดี เลยลอกเลียนแบบมาเขียนมั่ง

กาลครั้งหนึ่งนานมาแล้ว ...จวบจนปัจจุบัน และอนาคต

ที่ทำงานของเราเป็นโรงพยาบาลเล็กๆ ชนบทๆ แต่ไม่ไกลกรุงเทพฯ (มีจริงๆ นะ)

มาแนะนำตัวละคร เอ๊ย เพื่อนร่วมงานในแผนกให้รู้จักกันพอหอมปากหอมคอ (ไม่ควรหอมจริง) กันก่อน

เริ่มจากพี่หัวหน้าเป็นชายหนุ่ม สูงยาว ขาว ตี๋ แต่มีลูก 2 แล้ว ชื่อว่าพี่วิชชี่

ส่วนสมาชิกทั่วไปก็มีเรา (โสดอาวุโสสุด) ใครๆ ก็เรียกเจ๊

ถัดมาเป็นหนู วอนบิน-สาวน้อยใจร้อน เจ้าของคำฮิต "ลุยมันเรยมั๊ยเจ๊"

มีคู่หูดูโอ หมาเล็ก - หมาใหญ่

และคู่อาวุโส ตั้วเฮีย - ตั้วเจ๊

ปีนี้เรายังมีน้องใหม่อีก 2 คน คือลูกหนู และไข่นุ้ย

***************************************************************
อาทิตย์นี้มีวันหยุดราชการ 2 วัน พอเปิดมาวันพุธ โอ้ โห คนไข้ยั้วเยี้ย เอ๊ย ตรึมๆ

วันพุธ ในเวลาราชการก็ 500 คนได้

วันนี้-พฤหัส ก็สูสี ตอนกลับบ้านได้ 400 กว่าแล้ว

ตอนบ่ายต้องไปผลิตยาอีก เหนื่อยโครตๆ

เดือนนี้ไม่ได้กินข้าวโรงครัว เลยต้องหาซื้อกินเอง แล้วอะไรก็ไม่สะดวกเท่าร้านสะดวกซื้อ (แต่ไปซื้อแฟมิลี่มาร์ทนะไม่ใช่เซเว่น)

ซื้อแล้วก็เอามาแช่แข็งไว้

บังเอิญซื้อมาตั้งแต่วันอังคาร (วันหยุด) กล่องนึง ก็เลยแช่ไว้ที่บ้าน

แล้วก็ลืมไว้บ้านนั่นแหละ...........แต่ไม่อด เพราะไปซื้อใหม่แช่ไว้ตู้เย็นห้องยา

วันนี้ก็ก้มหน้าก้มตาจ่ายยาอยู่

ตั้วเจ๊แกก็พูดขึ้นว่า "พ่อมา"

แล้วก็มีเงาคนมาตรงช่องจ่ายยา

ทุกคนก็หวัดดีอัตโนมัติ

แล้วปกติประโยคนี้จะใช้กับหมาใหญ่ ที่พ่อต้องเป็นฝ่ายมาหาถึงโรงพยาบาล

จนผู้คนแซวกันว่าตั้งแต่แต่งงานก็ไปจงรักภักดีอยู่กะพ่อตา ลืมพ่อแม่ตัวเองซะแร้ว

เล่าต่อ........จากนั้นเจ้าของเงายื่นถุงใส่ของมาให้

เราก็รับแบบอัตโนมัติซะอีก

พอมองหน้าคนให้.........วันนี้ทำไมพ่อหมาใหญ่หน้าคุ้นๆ ฟะ - -'

(มาถามทีหลัง...หมาใหญ่ที่นั่งข้างหลังเรา ก็นึกเหมือนกันว่าทำไมวันนี้พ่อตูหน้าตาแปลกๆ ฟะ)

10 วิ ต่อมา

อ๊าว..พ่อตูเองนี่หว่า

(พ่อหายวับไปแร้ว)

ก้มลงมองของในมือที่รับมา.........ข้าวกล่องแช่แข็ง

คราวนี้ทุกคนเลยแซว.......โฮ้ย พ่อเขาเอาข้าวมาส่งลูกสาว "คนเดียว" ของเขา

ตอนบ่ายแม่ยังโทรมาถามอีกว่ากินข้าวยัง?

หารู้ไม่ว่าลูกสาวอ่ะ กินข้าวเวฟ เสร็จแล้วก็กินผัดหมี่ (ที่เลี้ยงคนไข้ตอนเช้า) จากนั้นก็ตบท้ายด้วยคัสตาร์ด

ตกบ่าย ไข่นุ้ยที่ไปเที่ยวทุ่งกระเจียว (พวกเราเรียกแบบเสียง ตรี )เอาหม่ำ (อาหารอีสานเป็นใส้วัวยัดใส้เนื้อวัวกับเครื่องเทศอื่นๆ) มาฝาก

ตั้วเจ๊ก็เอาไปไมโครเวฟแล้วเอามากินกัน.......กินต่ออีก

รสชาติแปลกๆ แต่ก็เอาเหอะ.....ของไม่เคยกิน

เจ้าไข่นุ้ยมาชิมดูมั่ง มันบอกว่ายังไม่สุกละมั้ง ไม่เคยกินแล้วคาวๆ แบบนี้

ตั้วเจ๊เลยไปเวฟใหม่

กินเข้าไปแล้วง่า.......

แต่พองวด 2 มา ก็กินต่ออีก

ตบท้ายด้วยไอศครีมก่อนกลับบ้านโคนนึง

ลืมไปเรยว่ากะลังปวดหัวอยู่

ถึงบ้านเลยอ้อนแม่อย่างเนียนๆ ว่าเนี่ยคนไข้เยอะ ปวดหัวด้วย

แล้วก็ทำหน้าผะอืดผะอม (สงสัยจากหม่ำ)

กินยาแล้วก็นอนแบบดับเครื่องจนถึงเวลาข้าวเย็นเลยแหละ

No comments: