Thursday, December 25, 2008

สรุปเหตุการณ์ส่งท้ายปีเก่า ต้อนรับปีใหม่ 52

สวัสดีปีใหม่ค่ะ ทุกๆ ท่าน ปีนี้ขอให้พบแต่สิ่งดีๆ สมปรารถนาในทุกสิ่งนะคะ

มาดูเหตุการณ์ที่ผ่านมาในชีวิตเจ้าของบล๊อคในช่วงปี 51 ที่ผ่านมากันดีกว่าค่ะ

เดินทางไกลแบบขับรถเอง 2 ครั้ง
- ลำปาง ทำบุญน้านิด 1 - 3 ก.พ. 51

- ปราจีนบุรี บ้านผางาม 27 - 28 ก.ย. 51


อบรมบ่มนิสัย 5 ครั้ง

- อบรมพิษณุโลก 16 - 17 ม.ค. 51
- อบรมPharm tech โรงแรมเอเชีย 24 - 25 เม.ย.51
- อบรม New drug เชียงใหม่ 28 เม.ย. - 2 พ.ค. 51
- อบรมธรรมะ สระบุรี 12 - 15 มิ.ย. 51....ไม่ไปอีกแล้วดั้ว
- อบรม ADR รพ.จุฬา 2 ส.ค. 51

เที่ยวทั่วไทย ไปทั่วโลก 4 ครั้ง....น้อยจัง ปีหน้าต้องปรับปรุง
- เกาะทะลุ 21 - 24 ก.พ. 51

- สังขละบุรี 5 - 7 เม.ย. 51
- บ้านผางาม 27 - 28 ก.ย. 51
- เวียตนาม 14 - 23 พ.ย. 51

งานแต่ง
- กวง ณรงค์ 12 ม.ค. 51
- เอก ไพศาล 18 ม.ค. 51
- เจี๊ยบ ศิริวรรณ 9 มี.ค. 51

อื่นๆ

ปีนี้ก็นับว่ายังโชคดีอยู่ (ได้ขั้นพิเศษอีกแร้ว...ฮี่)
แต่2 คนแม่ลูกจะโกอินเตอร์ก็มีอันต้องแห้วทู้กที รอบ 1 จะไปสิงคโปร์...อด รอบ 2 จะไปเซี่ยงไฮ้ (จองทัวร์แล้วกะหนุ่มสาว)...อด รอบ 3 จะไปฮ่องกง (จองทัวร์กะวีคเอนด์)...พันธมิตรปิดสนามบิน...อดอีก...........เฮ้อ


หมายเหตุ ยอดผู้ชายยกมาจากปี 51 = 0 และยอดยกไปปี 52 ก็ยัง = 0 อีกแล้ว....เหมือนเดิม T-T

Wednesday, December 17, 2008

พาแม่ไป มหาชัย Expo

เมื่อวันเสาร์ที่แล้วพาพ่อกะแม่ไปหาอาหารทะเลกินกันถึงมหาชัย

ทีแรกนึกว่างานจัดแถวตลาดมหาชัย ขับรถเข้าไปวนอยู่ก็ไม่เห็นมีวี่แววงาน

ถามคนแถวนั้นแล้วถึงได้ไปตรงตลาดทะเลไทย ถนนสายนอกโน่น

เป็นงานเล็กๆ มีของใช้มาขายประปราย ดีที่มีอาหารทะเลสดอยู่ท้ายตลาดให้ซื้อกิน แถมยังมีบริการนึ่งให้ด้วย

วันนั้นเลยได้กินปูนึ่งตั้งหลายตัว

วันรุ่งขึ้นก็กินปลาสำลีทอดราดน้ำยำ กับแกงส้มไข่ปลาเรียวเซียว (ไข่ปลาริวกิว) ฝีมือคุณนายสุนีย์

แต่สงสัยฝีมือตก ไข่ปลาคาวโครตจนเป็นลาภปาก 2 คุณหมาด้วย

เอาไว้น้องชายมา สงสัยจะได้ไปใหม่

Sunday, December 07, 2008

Tag 10 อย่างที่เขาลืมๆ แต่เรายังปลื้มและประทับใจ










1. การ์ตูนดราก้อนบอล







อ่านมาตั้งแต่ ม.ปลาย ถึงจบไปแล้วก็ยังอะหนุกอ่ะ







2. ลูกโป่งสวรรค์







ชอบม้ากมากเวลาไปเดินงานวัดแล้วผูกกะข้อมือ เป็น accessory คู่กะขนมปังกระดาษสีห้อยคอ







3. ตุ๊กตาแต่งตัวแบบกระดาษ







นี่ต้องแอบแม่ซื้อมาเล่นเลยเนี่ย แล้วต้องเลือกชุดให้ in trend อีกต่างหาก







4. เพลง คนนั้น ของ RRR&B

ถามใครก็ไม่มีใครรู้จักเลยเนี่ย ดีนะที่มีผู้มีอุปการะคุณหามาให้







5. ละครเรื่อง ปริศนา







ชอบเพลงประกอบละคร และพระเอกเวอร์ชั่นพี่ติ๊กล่ะ..........หล่อมั่กๆๆๆๆๆๆๆๆ







6. เกมกด

รุ่นก่อนประวัติศาสตร์ของเกมบอย PS โดยเฉพาะเกมยิงเครื่องบิน







7. หนังสือภาษาไทยชั้นประถม

มานี มานะ ชูใจ ปิติ เป็นนิยายจบในตอนเรื่องแรกที่ได้อ่านเลยล่ะ







8. ลูกอมไข่จิ้งเหลน







ลูกอมหวานเจี๊ยบลูกนึงอมได้เป็นชั่วโมง







9. ตู้ไขไข่







ชอบมากถ้าจะไขแล้วมีแหวนอยู่ข้างในอ่ะ







10. ขนมดอกจอก

หวานหอม กรอบ อร่อย แต่ไม่ค่อยได้กินแระ....อ้วน







Thursday, November 13, 2008

งานแต่งหมอโย 7 พ.ย. 51

เมื่อวันศุกร์ที่แล้วไปงานแต่งหมอที่ รพ. มาล่ะ

เจ้าหน้าที่ไปกันเยอะมาก

ทีแรกว่าจะแต่งตัวธรรมดากะไปกินอย่างเดียว

แต่ที่ไหนได้ เห็นเค้าเตรียมตัวกันตั้งแต่สายๆ ของวัน แถมยังใส่สายด่งสายเดี่ยวกันด้วย

เลยต้องขุดเอาสายเดี่ยวของตัวเองมาใส่มั่ง...เดี๋ยวเป็นป้าอยู่ในงาน

พี่ปุ๊ยทำหน้าที่เจ๊ดันเต็มที่ ไสหัวไปถักเปียตั้งแต่บ่าย ที่ฝ่ายบริหารซาลอน ช่างบอกให้แต่งหน้าด้วยแต่เห็นว่ายังวันอยู่เดี๋ยวคนไข้มากันเยอะ (เพื่อดูของแปลก)

ส่วนตัวพี่ปุ๊ยเองใส่ชุดแบบดันทรงสุดๆ จนผู้คนสงสัยพากันถามและจับ (นม) ดูว่าแอบยัดฟองน้ำ ซาละเปา ส้มเขียวหวาน ฯลฯ เข้าไปป่าว?

กว่าจะไปกันได้ ฝนก็ตกหนัก แถมโอมโดดขึ้นรถมาด้วยอีก ทำเอาวิ่งไม่ไป ต้องใช้เกียร์ต่ำ

ไปถึงงานมีแต่คนวี๊ดว๊ายสาวสายเดี่ยว....แหม่ อ้วนก็ใส่ได้ย่ะ

แต่อย่างไรก็ตาม ชาวห้องยาเลือกชัยภูมิติดประตูด้านหลัง แล้วก็ กิน กิน กิน


อิ่มแล้วก็พากันกลับหน้าตาเฉย แถมยัง (ตั้งใจ) ลืมเอาไอ้โอมกลับด้วย

รถเบา วิ่งฉิวเห็นๆ อิ อิ

Monday, November 03, 2008

เที่ยวใกล้ๆ กันนี่มันปวดหัวนิ

วันนี้สมาชิกทัวร์ทั้งเวียตนาม และฮ่องกง พากันโทรมาหาไม่ขาดสาย
จนงงไปหมดไม่รู้ว่ากะลังพูดถึงทริปไหนเนี่ย
เรียกว่าตกบ่ายมาไม่เป็นอันทำงานทำการ
ดีที่วันนี้คนห้องยาอุ่นหนาฝาคั่ง เลยมีคนช่วย
แต่แล้วก็ใช้วิธีตัดปัญหา ฟันธงมันซะทีว่าเอาไงแน่
.......เฮ้อ.........เป็นนักเที่ยวก็เหนื่อยเหมือนกันเนาะ

Monday, October 27, 2008

Metrosexuals come out!!

เมื่อวานอ่านข้อเขียนของคุณดวงหทัย ศรัทธาทิพย์ แล้วฮาน่าดู เป็นเรื่องทำนองจดหมายโต้ตอบระหว่างผู้หญิง 2 คน และมีพาดพิงถึง เมโทรเซ็กชวล ด้วย


มานึกๆ ดู รอบๆ ตัวเราก็พอจะมีตัวพะนี้อยู่เหมือนกันเลยจับมาอัพบล๊อคซะ...


วิกิพีเดีย เค้าบอกว่า


เมโทรเซ็กชวล (metrosexual) มาจากศัพท์ 2 คำ ที่นำมารวมกัน คำแรกคือคำว่า “Metro” ที่มีความหมายตรงกับคำว่าเมือง เมื่อนำมาใช้ในคำว่า “Metro sexual” ก็หมายถึงว่า ผู้ชายที่ใช้ชีวิตในรูปแบบสังคมเมือง เป็นบุคคลที่เข้าสังคม ในขณะเดียวกัน “Sexual” เป็นศัพท์ที่นำมาจาก “Homosexual” ซึ่งในที่นี้มีหมายถึงผู้ชาย ถึงแม้ว่าจะเป็นผู้ชายปกติ แต่ก็มีความกังวลเกี่ยวกับรูปร่าง การดูแลรักษาตัวเอง รวมถึงเรื่องแฟชั่นซึ่งไม่ต่างจากเกย์ เป็นกลุ่มคนผู้ชายที่นิยมความสวยความงามบนตัวเองมากกว่าปกติ โดยจะมีเรื่องการดูแลเครื่องแต่งกาย ใบหน้า และผิวพรรณสูงกว่าผู้ชายทั่วไป ซึ่งส่วนมากนิยมใช้สินค้าที่มียี่ห้อ ราคาสูง ใช้น้ำหอม ช๊อปปิ้ง เล่นฟิตเนส โดยพฤติกรรมของคนกลุ่มนี้ ไม่ได้สนใจแต่เรื่องสุขภาพอย่างเดียว แต่ยังเป็นคนทันสมัย ชอบการเปลี่ยนแปลง สนใจเรื่องเทคโนโลยี เรียนรู้และพัฒนาตนเองตลอดเวลา มุ่งมั่นทุ่มเทในการทำงาน เพื่อความสำเร็จ มีอาชีพที่มั่นคง และมีรายได้สูง ที่สำคัญยังเป็นนักช็อปตัวยง ซึ่งจะมีลักษณะตรงข้ามกับลักษณะที่เรียกว่า เรโทรเซ็กชวล



ส่วนข้อเขียนของคุณดวงหทัยในหนังสือ seventeen ก็มีความว่า

ผู้ปรึกษา : ......พวกเม็ทโทรหล่อลาก หลงรูป จูบเงาตัวเอง วันๆ เข้าสปา นวดหน้า ขัดผิด โบ๊ะหน้าด้วยแป้งสีน้ำตาลเข้มอมบรอนซ์ ปากเคลือบลิปกลอสสีนู้ดชิมเมอร์ แว็กซ์ขนทั่วร่างกาย จะตุ๊ดก็ไม่ตุ๊ด

สู้ศิลปินเซอร์ของหนูก็ไม่ได้...โหด..โฉด...เถื่อน...ดิบ...เร้าใจแรงๆ......

ผู้ให้คำปรึกษา : ........ส่วนครู...ในขณะนี้อยากได้แฟนผู้ชายเม็ทโทร

จะได้เป็นเพื่อนชี้ชวนกันชมหนุ่มหล่อ

เป็นเพื่อนไปช้อปปิ้ง เลือกรองพื้น บรอนเซอร์ ชิมเมอร์

ผลัดกันลองชุดชั้นใน ถ้อยทีถ้อยอาศัย ถ้อยทีถ้อยกรี๊ด ชื่นชมกันไปมา.........



อ่านแล้วฮากระจาย....ว่างๆ ต้องชวนตัวพะนี้ไปช้อปปิ้งด้วยกันบ้างซะแร้ว ฮี่ ฮี่

Monday, October 20, 2008

แก๊งค์หมูไม่กลัวน้ำร้อนกลับจากภูกระดึงแล้ว



เมื่ออาทิตย์ทีผ่านมาโอ๋และผองเพื่อน รวมทั้ง 2 ลูกยางคือหมอปุ้มกับพี่ยี้ ไปภูกระดึงกันมา

เรียกว่าเตรียมตัวกันไปอย่างนานมาก เพราะโดนคำขู่สารพัด (ไม่เคยไปก็เงี้ยแหละ)

ไปถึงก็รีบโทรมาบอก..อย่างเหนื่อยๆ

หมอปุ้มเป็นตะคริว

แถมยังเจอทาก...ให้โอ๋กรี๊ด



เดี๋ยวนี้มีจักรยานให้ขี่ข้างบนไม่ต้องเดินกินฝุ่นแบบเมื่อก่อน

ส่วนหนุ่มๆ เพื่อนโอ๋เป็นตากล้อง(และสารพัดเบ๊) รูปออกมาน่าจะดี

วันกลับหลวมตัวโทรไปหาปรากฎว่าทุกคนแย่งกันเล่าอย่างรื่นเริง

แต่ยังไงก็ตามถ้าถามว่าจะไปมั่งป่าว?.... หนเดียวสำหรับพจนารถก็เพียงพอแล้ว

Sunday, October 19, 2008

ถึงฤดูท่องเที่ยวอีกแล้ว

เมื่อกลางปีไม่ได้ไปไหนจนบ่นเบื่อ มาระยะหลังพอจะได้ไปบ้างแล้วก็มาเจอทริปใหญ่ต่างประเทศเอาปลายปี

มีทั้งไปเวียตนาม - ลาวใต้กับเพื่อนๆ เดือน พ.ย.



พาแม่ไปฮ่องกงเดือน ธ.ค.

ช่วงนี้เลยเก็บเงินสุดฤทธิ์ ไม่อยากให้ช๊อตไฟไหม้ตูดปลายปี....เอาแค่หมดตูดพอ

แถมปีหน้ายังไปปะเหลาะพวกอาจารย์ไว้ว่าถ้าจะไปวิจัยที่ญี่ปุ่นก็หนีบหนูไปด้วยนา

สงสัยต้องเก็บตังกันหัวโตล่ะทีนี้...........เฮ้อ

Wednesday, September 24, 2008

ไปฟิตเนตกันดีกว่า

ระวัง!.....มันกำลังจะมา

ดูโฆษณานี้แล้วฮา แต่รู้สึกแม่จะไม่ฮาด้วย

เพราะคุณนายสุนีย์เร่งอยู่เหยงๆ ว่าฟิตเนตที่ รพ. เปิดมาตั้งหลายเดือนแล้ว ทำไมยังไม่ไปเล่นอีก

ข้ออ้างที่ว่า ใหม่ๆ คนเค้าเห่อกัน ไม่มีเครื่องให้เล่น ดูจะเก่าแระ

ก็เลยไปก็ด้ะ.........

แค่ปั่นจักรยานก็เหนื่อยแระ ไม่นับที่ไปเล่นลู่วิ่ง กะลู่วิ่งกึ่งสเตปอีก

ดีที่เตรียมอาหารไว้รับขวัญวันฟิตเนต........ฮี่

เล่นได้อาทิตย์ละ 2 - 3 วัน (เพราะเวลามีอยู่แค่นี้)

แต่ยิ่งมา คนยิ่งน้อย ไม่แน่ใจว่าเค้าหายเห่อกันแล้ว หรือหลอนเสียงหอบแฮ่กๆ ของเราก็ไม่รู้

แต่เอาเหอะ งวดนี้ไม่กะผอมแล้ว แค่เดินตามเพื่อนไปเที่ยวไหนๆ แบบไม่หมดแรงเป็นใช้ได้

แต่ก็หวังเล็กๆ ว่าน้ำหนักจะลด........


ได้ยินเสียงแซวมาแว่วๆ ว่า

มันไม่มาแล้วเจ๊...........มันมาไปแร้วววว

Sunday, August 17, 2008

อัพเดทมวยสากล

ตอนนี้กระแสกีฬาโอลิมปิกมาแรง ที่เชียร์ๆ กันอยู่ก็เห็นจะไม่พ้นมวยสากล เลยได้หัวข้อจะมาอัพบล็อคซะที ถึงรูปจะเป็นมวยไทย แต่ได้รางวัลชุดนะเอ้อ

มวยสากล (Boxing) เป็นศิลปะการต่อสู้ชนิดหนึ่งที่สู้กันด้วยหมัดทั้ง 2 ข้าง มีการแข่งขันตั้งแต่สมัยกีฬาโอลิมปิคยุคโบราณ และเป็นที่นิยมมาจนถึงปัจจุบันมวยสากลหรือที่เรียกในยุคแรกว่า "มวยฝรั่ง" เข้าสู่ประเทศไทยครั้งแรกราว พ.ศ. 2455 โดยได้แบบอย่างจากประเทศอังกฤษผู้นำมาเผยแพร่คือหม่อมเจ้าวิบูลย์สวัสดิวงศ์ สวัสดิกุล ครั้งแรกนำมาเผยแพร่ที่โรงเรียนสวนกุหลาบวิทยาลัยและแพร่ต่อไปยังโรงเรียนต่างๆ มีการจัดแข่งขันมวยนักเรียนซึ่งเป็นแบบมวยสากลสมัครเล่น


องค์กรเกี่ยวกับมวยสากลที่พวกเรารู้จักกันดี ก็ได้แก่ สภามวยโลก (WBA) สมาคมมวยโลก (WBC) และ สหพันธ์มวยนานาชาติ (IBF)

ส่วนรุ่นมวย ที่แบ่งตามพิกัดน้ำหนักจะมีชื่อเรียกของแต่ละองค์กรแตกต่างกัน


Weight Classes or Divisions


1. Mini Flyweight (IBF, WBO)

Strawweight (WBC)

Minimumweight (WBA)

- Up to and including 105 lbs


2. Junior Flyweight (IBF, WBO)

Light Flyweight (WBA, WBC)

- Over 105 to 108 lbs


3. Flyweight (IBF, WBA, WBC, WBO)

- Over 108 to 112 lbs


4. Super Flyweight (WBA, WBC)

Junior Bantamweight (IBF, WBO)

- Over 112 to 115 lbs


5. Bantamweight (IBF, WBA, WBC, WBO)

- Over 115 to 118 lbs


6. Super Bantamweight (WBA, WBC)

Junior Featherweight (IBF, WBO)

- Over 118 to 122 lbs


7. Featherweight (IBF, WBA, WBC, WBO)

- Over 122 to 126 lbs


8. Super Featherweight (WBA, WBC)

Junior Lightweight (IBF, WBO)

- Over 126 to 130 lbs


9. Lightweight (IBF, WBA, WBC, WBO)

- Over 130 to 135 lbs


10. Super Lightweight (WBA, WBC)

Junior Welterweight (IBF, WBO)

- Over 135 to 140 lbs


11. Welterweight (IBF, WBA, WBC, WBO)

- Over 140 to 147 lbs


12. Super Welterweight (WBA, WBC)

Junior Middleweight (IBF, WBO)

- Over 147 to 154 lbs


13. Middleweight (IBF, WBA, WBC, WBO)

- Over 154 to 160 lbs


14. Super Middleweight (IBF, WBA, WBC, WBO)

- Over 160 to 168 lbs


15. Light Heavyweight (IBF, WBA, WBC, WBO)

- Over 168 to 175 lbs


16. Cruiserweight (WBA, WBC, IBF)

Junior Heavyweight (WBO)

- Over 175 to 200 lbs


17. Heavyweight (IBF, WBA, WBC, WBO)

- Over 200 lbs to unlimited

ใครอยากรู้ว่าตัวเองอยู่รุ่นไหนก็เอาน้ำหนักตัวเป็นกิโลกรัม คูณด้วย 2.2 ก็จะได้น้ำหนักเป็นปอนด์เอง


ส่วนเรา.....เหวย....... ตอนนี้อยู่รุ่น Junior Middleweight แล้วอ่ะ (โปรดสังเกตว่าไม่ใช้คำว่า Super อิ อิ)

Monday, August 11, 2008

หนังดัง TVB ในอดีต

วันนี้อยู่เวร แต่ไม่ค่อยมีคนไข้ เลยท่องเนตไปเรื่อยๆ ไปเจอะบล๊อคน่าสนใจเข้าให้เป็นรูป+เรื่อง หนังจีนสมัยเก่า ที่เราติดหนึบตอนเด็กๆ (มาคิดดูอีกที แปลว่ามานำเหนอว่าตูแก่แล้วอ่ะดิ -_-')แต่วัยเดียวกันต้องคุ้นเหมือนกัน...ชัวร์
มังกรหยก ใครไม่พูดถึงมั่งอะ อึ้งย้ง+ก๊วยเจ๋ง โด่งดังพลุแตก หวงเย่อหัว+อุงเหม่ยหลิง อีกคู่ เอี้ยคัง+มู่เนี่ยมฉือ (เหมียวเฉียวเหว่ย +หยังพ่านพ่าน)รู้สึกว่าเวอร์ชั่นนี้ดูเป็นรุ่นที่ 2 มีรุ่นแรกที่ก๊วยเจ๋งขี้เหร่ๆ ที่เคยดูอีกต่างหาก
มังกรหยก เอี้ยก้วย+เซียวเหล่งนึ่ง (หลิวเต๋อหัว+เฉินอวี้เหลียน)
นี่ก็เอี้ยก้วยอีกเวอร์ชั่น (ดูอีกเหมือนกัน แต่พระเอก นางเอก หล่อสวยกว่าเห็นๆ)กู่เทียนเล่อ กับ หลี่ยั่วถง
ชอลิ้วเฮียงรุ่นแรก ดั้งเดิม เจิ้งเส้าชิว...สุดยอด
นี่ภาคใหม่ เหมียวเฉียวเหว่ย+อุงเหม่ยหลิง ชอลิ้วเฮียงถล่มวังค้างคาว
เติ้งชุ่ยเหวิน+วั่นจื่อเหลียง ในซิยิ่นกุ้ย
มีซิยิ่นกุ้ยก็ต้องมีลูกชาย ซิติงซาน (หนังจีนโรแมนติก?ที่จำได้เรื่องแรก)เฉินหมิ่นเอ๋อ + หวงเย่อหัว
ส่วนนี่กำลังฉายซ้ำที่ช่อง 3 ขุนศึกตระกูลหยาง เหลียงเฉาเหว่ย (หยาง 7 สุดที่รัก) + เจิงหัวเชี่ยน
เซี่ยะหนิง + เหลียงเฉาเหว่ย เดชเซียวฮื่อยี้ เวอร์ชั่นนี้ชอบมากสุดอ่ะ (เพราะมีเฮียเหลียง ฮิ ฮิ)
หลี่ซ่งเสียน + เหลียงเพ่ยหลิง เดชคัมภีร์เทวดา พระเอกไม่หล่อแต่นางเอกสวยใช้แต่ แต่ที่ชอบสุดกลับเป็นเฒ่าเกย์..ตงฟางปุ๊ป้าย!!

Saturday, August 02, 2008

มาสคอตโอลิมปิกปักกิ่ง 2008

เมื่อเดือนก่อนฝากเพื่อนอ๋อยซื้อตุ๊กตาโอลิมปิกมา เห็นว่าน่ารักดี

ยังไม่ทันได้แกะออกมาชื่นชมใกล้ๆ เพราะกลัวดำ ได้แต่บอกแม่ว่าเก็บไว้โชว์เหอะ

ที่จริงทางจีนเขาทุ่มเทกับโอลิมปิกคราวนี้มาก ทำอะไรก็ให้มันมีความหมายไปซะหมด

ตุ๊กตานำโชคทั้ง 5แทนสัญลักษณ์ที่สื่อความหมายมงคลในหลายด้านตามแบบฉบับศิลปะจีนโบราณ ที่นิยมใช้สัญลักษณ์ต่างๆ

ตุ๊กตานำโชคทั้ง 5จะคอยส่งมอบความสุขให้กับทุกๆคนเริ่มจาก

เป้ยเป้ย(ฺBeibei)จะทำหน้าที่ส่งมอบความเจริญรุ่งเรือง เนื่องจากวัฒนธรรมจีนภาพเขียนพู่กันรูป"ปลา"และ"น้ำ"จะแทนสัญลักษณ์ของความเจริญรุ่งเรืองและความสำเร็จ นอกจากนั้น คำว่า ปลา ในภาษาจีนที่ออกเสียงว่า "อี๋ว์" พ้องเสียงกับคำที่หมายถึง "มีกินมีใช้เหลือเก็บ" ส่วนหัวของเป้ยเป้ย ยังประดับด้วยลวดลายปลาซึ่งนิยมในยุคเครื่องมือหินใหม่ของจีน เป้ยเป้ยเป็นยอดฝีมือแห่งกีฬาทางน้ำ แทนห่วงสีฟ้าในสัญลักษณ์โอลิมปิกสากล

จิงจิง(Jingjing)เป็นหมีแพนด้าหน้าตายิ้มแย้ม หมีแพนด้าเป็นทั้งสมบัติล้ำค่าของชาติจีน และยังเป็นที่รักของผู้คนทั่วโลก แทนความสมานฉันท์อันดีระหว่างมนุษย์กับธรรมชาติ ส่วนหัวของจิงจิงประดับด้วยลวดลายกลีบดอกบัวตามลักษณะเครื่อง-เคลือบสมัยซ่ง นอกจากจิงจิงจะไร้เดียงสามองโลกในแง่ดีแล้ว จิงจิงยังแฝงไปด้วยพละกำลังที่เต็มเปี่ยม เป็นตัวแทนห่วงสีดำ

ฮวนฮวน(Huanhuan) หรือหนูน้อยลูกไฟ เป็นพี่ใหญ่ในบรรดาเด็กน้อยนำโชคทั้ง 5 เป็นสัญลักษณ์ของไฟโอลิมปิก และยังเป็นตัวแทนความฮึกเหิมของนักกีฬาวึ่งจะส่งมอบจิตวิญญาณของกีฬาโอลิมปิกที่สนุกสนานและเข้มแข็งไปยังทุกที่ที่ไปถึง เครื่องประดับบนศรีษะมีต้นแบบมาจากลวดลายของเปลวไฟในภาพบนผนังของถ้ำผาม่อเกาคู เมืองตุนหวง ในมณฑลกันซู่ ทางภาคตะวันตกเฉียงเหนือของจีน ฮวนฮวนชอบแสดงออก เชี่ยวชาญกีฬาประเภทบอลทุกชนิด เป็นตัวแทนห่วงสีแดงส่วน

อิ๋งอิ๋ง(Yingying)คือละมั่งทิเบตที่เฉลียวฉลาด คล่องแคล่วว่องไว มาจากพื้นที่ภาคตะวันตกที่กว้างสุดลูกหูลูกตาของจีน ส่งมอบความสุขสมบูรณ์ที่แข็งแรงให้แก่โลก ละมั่งทิเบตเป็นสัตว์สงวนของที่ราบสูงชิงไห่-ทิเบต เป็นการแทนความหมายของ โอลิมปิกสีเขียว หรือ โอลิมปิกที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม ในครั้งนี้อีกด้วย ส่วนหัวของอิ๋งอิ๋ง เป็นการผสมผสานระหว่างรูปแบบเครื่องประดับของที่ราบชิงไห่-ทิเบตและเขตต่างๆ มือเท้าของอิ๋งอิ๋งว่องไว เชี่ยวชาญกรีฑาทั้งลานและลู่ เป็นตัวแทนของห่วงสีเหลืองตามติดมาด้วย

นีนี(Nini)หนูน้อยคนสุดท้ายที่มาจากฟากฟ้านภากาศ เพราะเป็นนกนางแอ่นที่กำลังสยายปีกรูปลักษณ์ของนีนีได้มาจาก ว่าวนางแอ่น ดั้งเดิมของปักกิ่ง "นางแอ่น" ยังเป็นตัวแทนของ "เยียนจิง" (ชื่อในสมัยโบราณของเมืองปักกิ่ง)นีนีจะนำพาฤดูใบไม้ผลิและความเบิกบานมาสู่มวลมนุษย์และโปรยปรายคำอวยพร "ขอให้โชคดี" ไปยังทุกๆที่ที่บินผ่าน นีนีไร้เดียงสา ความเบิกบานอยู่เป็นนิจจะส่องประกายบนสนามแข่งขันยิมนาสติก เป็นตัวแทนห่วงสีเขียว

เมื่อทั้ง 5 ตัวรวมกันก็จะได้เป็น"เป้ย จิง ฮวน อิ๋ง หนี่"ซึ่งแปลว่า "ปักกิ่งยินดีต้อนรับคุณ" นั่นเอง แต่ไม่ใช่แค่นั้น เพราะเมื่อสังเกตดีๆ ก็จะเห็นว่าสีของตุ๊กตาทั้ง 5 นี้สอดคล้องกับธาตุทั้ง 5 ตามหลักฮวงจุ้ยอีกด้วย เริ่มตั้งแต่ สีฟ้าแห่งธาตุน้ำของเป้ยเป้ย สีขาวแห่งธาตุโลหะของจิงจิง สีแดงธาตุไฟของฮวนฮวน สีเหลืองธาตุดินของอิ๋งอิ๋ง และสีเขียวธาตุไม้ของหนีหนี่

ส่วนสัญลักษณ์ของโอลิมปิก 2008 "ปักกิ่งเริงระบำ"

เป็นชื่อของสัญลักษณ์โอลิมปิก 2008 ซึ่งจำลองรูปแบบมาจาก ตราประทับจีนโบราณซึ่งตราประทับนี้ส่วนพื้นเป็นสีแดง ส่วนอักษรแกะสลักเป็นตัว "จิง " ซึ่งหมายถึงเป่ยจิง(ปักกิ่ง) อีกทั้งมีสัญลัษณ์คล้ายตัวอักษร (เหวิน) ซึ่งหมายถึง อารยธรรมที่สืบทอดมา ยาวนานของชนชาติจีน ตัวอักษรดังกล่าวยังเป็นลักษณะท่าทางของคนที่วิ่งไปข้างหน้าขณะกำลังยินดีที่ได้รับชัยชนะ

น่าเสียดายที่ปีนี้จีนโชคไม่ดี เจอปัญหาเรื่องหมอกควันและภัยธรรมชาติถี่หน่อย

Friday, July 25, 2008

9 Firsts 9 Lasts

ไม่รู้จะหาอะไรมาอัพแระ ไปดูๆ tag ชาวบ้านแล้วเอามาอัพบ้างดีกว่า


-- 9 Firsts --


1. First best friend (เพื่อนสนิทคนแรก) - โห..ถ้าจะบอกว่าเป็นหมาเนี่ย เพื่อนๆ จะน้อยใจมั๊ยน้อ แต่เป็นหมาตัวแรกจริงๆ ชื่อเจ้าตูบ ถึงจะไม่ค่อยแสนรู้ และกัดเจ้าของทุกคน แต่ก็เป็นเพื่อนที่ดีที่สุดเรยแหละ


2. First screen name (นามแผงอันแรก) - ไอ้หมู เพื่อนชั้นประถมก็เรียก เพื่อนม.ต้นก็เรียก..อวบแต่เด็กก็เงี้ย


3. First pet name (สัตว์เลี้ยงตัวแรก) - เจ้าตูบ หมาไทยวัดๆ เอามาตอนจะเข้าม.1 ตายตอนจะจบปี 5 อายุยืนสุดๆ


4. First Piercing (เจาะ....ครั้งแรก) - เจาะเลือด ที่จำได้ตอนปี 3 อ่ะ เป็นลมไปเรย ส่วนเจาะหูก็เมื่อปีที่แล้วเอง (ตันไปแล้วด้วย)


5. First crush (หลงรักครั้งแรก) - อู้ว....นึกไม่ออก แบบว่าหลายจายยยย


6. First CD (CD แผ่นแรก) - จำไม่ได้แล้วอ่ะ เพราะซื้อเครื่องเล่นซีดีมาตั้งหลายปี แต่น่าจะเป็นแผ่นรวมฮิต ชอบความคุ้มอ่ะ


7. First school (เรียนที่แรก)- เรียนอนุบาลที่ รร.วัดกกตาล...ข้างบ้าน


8. First house location (บ้านหลังแรก) - หลังแรกหรือหลังปัจจุบันก็อยู่ที่เดิมน่ะแหล่ะ แต่หลังเดิมเป็นทรงไทย (มีหัวกะไดไว้ให้แห้ง) แล้วก็มาปลูกใหม่เมื่อ 29 ปีก่อน


9. First car (รถคันแรก) - เป็นรถ FIAT 124 ST พ่อหัดขับให้ตอนอายุ 19


-- 9 Lasts --


1. Last time you smoked - บอยไม่สูบฮ่ะ


2. Last food you ate - อู้ เยอะนา มีกล้วยแขก บาบีคิวหมู หมี่เกี๊ยวแห้ง ลำใย สตอเบอร์รี่แห้ง นี่แหละมื้อเย็น ถ้าไม่เป็นหวัดจะกินเยอะกว่านี้อีก


3. Last car ride - ยังไม่ last เฟ้ย ยังใช้ต่อไปก็ cedia เจ้าเก่านี่อ่ะ (ประกาศขายพร้อมคนขับ ฮี่ ฮี่)


4. Last movie you watched - เรื่อง Hancock ของป๋า วิล สมิธ นี่แหละ สนุกจนอ๋อยถามว่าเรื่องนี้มันจะบอกอะไรเนี่ย? ส่วนเราก็ได้คำว่ารูตูดมาง่ะ


5. Last phone call - เงียบฉี่อยู่ทั้งวัน คนโทรมาคนสุดท้ายเป็นอ๋อย เมื่อคืนวาน แถมยังไม่ได้รับสายอีกต่างหาก


6. Last CD you listened to - เพลง You ของ Jim Brickman (CD เถื่อนทำเอง)


7.Last bubble bath you take - BeNice กลิ่น Fruit Indulgence ที่แม่บอกว่าใช้หมดแล้วเปลี่ยนกลิ่นด้วยนะ...เหม็น


8. Last song you listened to - อ่าว ไม่ใช่ข้อ 6 เรอะ?


9. Last words you said - ทำเสร็จแล้วเว้ย
ปล. ไหนๆ ก็ทำแระ tag อ๋อยต่อละกัน

Wednesday, July 23, 2008

หนุ่มหล่อในสต๊อกแต่งไปอีกคนแระ


อยากจะ กรี๊ด ดังๆ ว่าขวัญใจอีกคนของเค้าแต่งไปซะแระ



แต่สุดยอดจริงๆ คบกันมากว่า 20 ปีเนี่ย



ไปแต่งกันที่ภูฏานอีกต่างหาก



รูปถ่ายสวยมั่กๆ เห็นแล้วอิจฉาๆ

Sunday, July 06, 2008

Tag เรื่องหน้าแตก

ได้รับ tag มานมนาน แต่ไม่ได้ตอบซะที เพราะคอมเสีย (ตอนนี้ก็ยังเสียอยู่)


วันนี้ได้ฤกษ์ (ใช้เครื่องชาวบ้าน) ก็เลยมาตอบซะให้เสร็จๆ ไว้สมน้ำหน้าคนเจอ tag กวีนิพนธ์ได้เต็มๆ




3 เรื่องหน้าแตก หมอไม่รับเย็บ...


ที่จริงนึกไม่ค่อยออกหรอก เพราะส่วนใหญ่ก็จะลืมๆ ไปซะมากกว่า..เสียเวลาแกล้งคนอื่นง่ะ

1. สวมวิญญาณนางร้ายวีนแตก

ไม่อยากจะเชื่อเลยว่า นศ.ปริญญาโท คนแรกและคนเดียว (ตอนนั้น) ของภาควิชา จะหลุดภาพลักษณ์ใสซื่อไปได้ เพราะว่าทำ lab อยู่ดีๆ จนมืดค่ำ ออกไปหาข้าวกินแป๊บเดียว ประตูตึกทำ lab จะปิดแบบใส่กุญแจ (ปกติเป็นระบบล๊อคด้วยการ์ด).......อ๊ายยยยยยยยยย lab ชั้นยังไม่เสร็จเรยนะย๊า มองไปมองมา อยู่หน้าประตู อ้าว..มีเงาคนอยู่นิหว่า (หรือว่าผีก็ไม่รู้) เลยไปที่ตึกใหญ่ ใช้โทรศัพท์สายในโทรเข้าไป

"ฮัลโหล" ปลายสายก็รับโทรศัพท์

เสียงผู้ชายนี่หว่า..พี่เจ้าหน้าที่ประจำตึกมั้งนั่น

"นี่พจนารถนะคะ" ทำเสียงเข้ม เหมือนตอนด่ากันทางโทรศัพท์ที่ รพ.

"เข้าตึกไม่ได้ค่ะ ช่วยเปิดให้ด้วย" (จะล๊อกประตูทำไมเล่าโว้ย)

"คับ ได้คับ.." ไม่ทันรอให้อีกฝ่ายพูดจบเราก็วางหูฉับ เดินไปตึก

อ้าว คนที่อยู่ในตึกไม่ใช่ใครที่ไหน advisor ตูเอง ดันใช้น้ำเสียงข่มขวัญไปแล้วง่ะ.......แป่ว

2. โชว์นู้ดกลางสระน้ำโรงเรียน

เรื่องตั้งแต่ไม่มีนม เอ๊ย นมนานมาแล้ว ตอนเข้า ม. 1 ที่โรงเรียนให้ไปเข้าค่ายที่หนองขาหยั่ง แถมให้อาบน้ำกันในสระน้ำหน้าโรงเรียน พจนารถเพิ่งเคยใส่ผ้าถุงเป็น ก็ลงไปอาบน้ำ (ที่ดำไปด้วยโคลนจากนักเรียนเกือบ 700 คน) จนคิดว่าขึ้นดีกว่า คนที่อาบอยู่ใกล้ๆ กันก็สะกิดบอกว่า เธอๆ ผ้าถุงเปิดแน่ะ............แป่ว

แหม ก็ใครจะรู้ว่าตีโป่งแล้วลมมันไม่ยอมออกไปเล้า

3. อ้วกใส่ตัวเอง

ดีแต่แซวหมอปุ้มอยู่บ่อยๆ ว่านั่งรถ นั่งเรือ เป็นได้อ้วก แต่นั่งรถอัดกันแน่นเป็นปลากระป๋องผ่าน 100 โค้งที่ซาปา เวียตนามคราวนั้น พจนารถก็อ้วกซะ ข้างซ้ายก็หมอปุ้ม ข้างขวาก็จุ๋ย ตูจะอ้วกไงดีล่ะเนี่ย เลยต้องเอาถุงอาหารส่วนกลางมาอ้วกใส่เข้าไป มันมืดอีกเลยไม่เห็นว่ากางถุงดีป่าว เลยอ้วกใส่กางเกงตัวเองนิดนึง หลังจากนั้นถึงค่อยนึกขึ้นได้ว่าควรจะอ้วกใส่จุ๋ย เพราะมันถือโอกาสเอามาล้อตลอด..........

Tuesday, June 17, 2008

อบรมธรรมะ..บำเพ็ญบุญ




ไม่รู้อะไรเข้าสิงอีกแร้ว...

ถึงได้ตอบตกลงหมอปุ้มกับเจ้าออยว่าจะไปปฏิบัติธรรมตามโครงการที่รพ.จัด ถึงศูนย์ปฏิบัติธรรม เมืองอริยะ จ.สระบุรีโน่น




เจออุปสรรคตั้งแต่แรก ที่ต้องวิ่งขอรถเอาเอง แถมไม่มีรถโรงพยาบาลพาไปส่ง สุดท้ายต้องสอบถามเรื่องเบิกค่าน้ำมันรถส่วนตัวได้ป่าว? แล้วก็ขออนุมัติเบิกค่าน้ำมันเอาเอง


ทีแรกก็ว่าเป็นโอกาสอันดี ที่ไม่คิดจะขับรถไป จะได้ไม่ต้องไป


หมอปุ้มดันอาสาขับรถไปเสร็จสรรพ


โอ้.......คงถึงคราวต้องไปถากกิเลส (หัวหน้าใช้คำนี้อ่ะ) กะเขาซักครั้งในชีวิต


ไปถึงอย่างราบรื่นดี นั่งฟังหลวงพ่อ CEO ศูนย์ปฏิบัติธรรมเทศน์ ได้ 5 นาทีก็หลับ


เหน็บกินขาจนต้องใช้แขน 2 ข้างแงะออกมา


หลังจากช่วงพักเลยต้องบากหน้าไปนั่งเก้าอี้ด้านหลังที่เขาจัดให้ผู้สูงอายุแทน...เพื่อสุขภาพไขข้อ


คราวนี้หลับสบาย.............เฮ่อ


สถานปฏิบัติธรรมที่นี่ กว้างขวางมาก ระยะทางจากห้องอบรม (ติดแอร์..ขอบอก) ไปที่กินข้าวค่อนข้างไกล เลยได้ใช้วิริยะ อุตสาหะ เดินไป เดินกลับ (แบบขึ้นเนินที่อ๋อยคงไม่ชอบ)


แต่ก็ดีที่มีอาหารให้กิน 3 มื้อ........ถ้าไม่มีปัจจัยนี้ไม่มาเด็ดๆ


นอกจากทำวัตรเช้า 6.30 และเย็น 18.30 แล้วก็อบรมตั้งแต่ 8.45 - 21.30 มีพักเบรกเช้า-บ่าย


มีพรหมจารินีย์เป็นคนสอนธรรมะ เน้นอริยสัจ 4 แบบเข้าใจไม่ยาก มีตัวอย่างประกอบ และเข้าถึง (หลับ) ได้ง่าย


ที่จริงก็ออกจะสะดวกสบายกว่าที่อื่นตั้งเยอะ


แต่ทำไมไม่รู้ อยากกลับบ้านตั้งแต่วันแรก จนต้อง sms หาเพื่อนให้วุ่นวาย........แง


ถึงเวลานอน ก็มีที่นอนให้นอนห้องแอร์ ตื่นเช้านิดหน่อยแค่นั้นเอง


กว่าจะเริ่มปรับตัว (ให้ยอมรับชะตากรรม) ก็เข้าวันที่ 3 - 4 แล้ว


เวลาว่างเล็กน้อยตอนเย็นก็เดินดูโน่นนี่ได้บ้าง (ถ้าฝนไม่ตก)


ดีที่ตั้งเป้าหมายไว้แค่ว่า "มาฟังธรรม" ขืนตั้งเป้าว่า "เข้าถึงธรรม" คงจะถากกิเลสไม่ออกเหมือนเดิมง่ะ

Saturday, June 07, 2008

ไปกินโออิชิกันอีกแล้ว

กำลังจะยกเลิกบัตรเครดิต เลยคิดหาวิธีใช้แต้มสะสม ทีแรกก็ว่าคะแนนเยอะพอที่จะแลกบัตรโออิชิแล้วเชียวนา แต่ปรากฎว่าตอนทำรายการแลกอัตโนมัติ ดันกดรหัสผิด เลยได้เป็นบัตรส่วนลดของ MK แทน T-T

โทรไปบ่นกับอ๋อย อ๋อยก็เลยเอาแต้มของตัวเองไปแลกมั่ง

หลังจากนั้นพวกเราก็ไปกินรอบแรกกันที่ MK ก่อน

แล้วเมื่อวานก็ไปกินโออิชิกัน มีพี่ยี้ กับเอ๋ไปเป็นเพื่อนร่วมขบวน

ถ่อไปโออิชิแกรนด์เหมือนเคย และต้องรอกินรอบ 4 โมงเย็นเหมือนเคย

ดีที่ระหว่างรอ ไปนั่งกินขนมปังนมสดกันที่สยามซะก่อน เลยไม่ต้องเป็นลมเพราะอดข้าวเที่ยง

เข้าไปกินคราวนี้ เอ๋กับพี่ยี้ที่มาเป็นหนแรก ทำท่าจะเป็นม้าตีนต้น อิ่มแต่แรก แต่ที่ไหนได้ พี่เอ๋แกเล่นกินของคาวสลับกับของหวานได้หน้าตาเฉย

ส่วนพี่ยี้ อาศัยกินขนมถ้วยเล็กๆ มีของคาวสลับเป็นพักๆ

เรียกว่าทุกคนกินกันไปโขอยู่ หลังจากเม้าท์กันเฮฮาที่โต๊ะ

ส่วนเราก่อนจะอิ่ม ชั่งใจอยู่ว่าจะอ้วกออกมาดี หรือจะผะอืดผะอมไปจนถึงบ้านดี

สุดท้ายก็อมอ้วกได้สำเร็จ

แต่พอเข้านอนดันนอนไม่หลับ เพราะไม่สบายท้องเท่าไหร่ แถมรู้สึกว่าร่างกายกำลังหาทางย่อยแบบร้อนไปหมด

ได้แต่นอนท้องป่อง กระสับกระส่ายเหมือนอมกองไฟอยู่ทั้งคืน....เฮ้อ

อ๋อยยังมีบอกไว้แก้ตัวคราวหน้าอีก

สงสัยต้องกินยาช่วยย่อยซักกำมือก่อนนอนล่ะทีนี้

Saturday, May 24, 2008

กินกระหน่ำอีกแร้ว

วันนี้ไปกินพิซซ่าที่ร้านสโนว์ไวท์กะอ๋อย...ฉลองชัยไขมันต่ำ

กิน กิน กิน

จนโต๊ะข้างๆ มองว่ามันมากันแค่ 2 คนนะเนี่ย

อิ่มจนท้องจะแตก

แล้วก็ไปร้านกิจชัยต่อ

เค้าเอาน้ำลำไยเย็นฉ่ำมาเลี้ยง...

ก็กินอีกอย่างไม่ลังเล

.....อะฮื้อ..........

เรานี่มันเด็กกินง่ายจิงๆ ใครให้กินอะไรก็กินง่ะ

Friday, May 23, 2008

เมื่อความซวยมาเคาะประตู


เดือนนี้นับว่ามีแต่เรื่องให้หนักใจตลอด

ตั้งกะพาคุณหมาไปทำหมันกัน ได้ 4 - 5 วัน มันก็แผลแตกทั้งภายในภายนอก ต้องเอาไปเย็บกันอีกครั้ง แถมต้องฝากให้อยู่ที่คลินิกด้วย

พร้อมๆ กันก็เกิดปวดท้องข้างขวา กินยาหนแรก แพ้...ปากเจ่อเรย กินหน 2 เลยต้องเลี่ยงไปกลุ่มอื่น แต่กินหลายตัว

ผ่านไป 1 อาทิตย์ ก็ยังรู้สึกปวดอยู่ แถมนอนไม่ค่อยหลับ เป็นห่วงหมาด้วย

และยังต้องคอยกระเบียดกระเสียร เพราะต้องเอาเงินไปเที่ยวเซี่ยงไฮ้กะแม่ มีคุณหมามาช่วยเพิ่มค่าใช้จ่ายอีก

จนเกือบๆ จะไปแระ ทัวร์โทรมาบอกว่าโทดทีคับพี่ มีคน cancel ไป 4 คน ทัวร์เราคงไม่ออก...แป่ว

กลัวว่าคุณนายสุนีย์จะวีนที่ไม่ได้ไป (เพราะอุตส่าห์ลงทุนซื้อรองเท้าผ้าใบไซส์เด็กมาใส่เดิน) แต่ก็ดีที่บอกว่าไปปลายปีก็ได้

เลยไปหาหมอเรื่องปวดท้องได้ซะที (ทีแรกกลัวว่าจะถึงขั้นนอน รพ. แล้วอดไปเที่ยว เลยไปถึงโดนยึดค่ามัดจำเที่ยวด้วย)

หมอก็ให้ ultrasound กับเจาะเลือดแบบละเอียด

หลัง ultrasound หมอบอกสงสัย cyst แต่ยังไม่มั่นใจเพราะอ่านผลจากเครื่องไม่ค่อยเก่ง (อาจจะเป็นอึก็ได้) เลยรอผลเลือด

แต่พอผลเลือดออกมาปกติ แกก็เลยบอกว่าถ้ายังปวดอยู่ก็ให้ปรึกษาหมอสูติฯ อีกคนที่ชำนาญอ่านผลมากกว่า

ส่วนผลเลือดที่ว่า นอกจากปกติจนผิดปกติแล้ว ทุกคนลงความเห็นว่าเครื่องตรวจน่าจะพัง

...ไม่อยากจะเชื่อว่าคลอเลสเตอรอลของพจเนี่ยนะ 127 (ค่าปกติ 150 - 200) ไตรกลีเซอไรด์เนี่ยนะ 43 (ค่าปกติ 30 - 120)...

เครื่องพังชัวร์..................ป๊าดธ่อ

ทำม่ะ พจจะ low fat มั่งไม่ได้รึง่ะ

Saturday, May 17, 2008

พาคุณหมาไปขึ้นเขียงล่ะ2

เมื่อวานนี้แห้วไปทีนึงแระ กะการพามะหมาไปทำหมัน

ก็บ่นกันว่าจะพามันไปเมารถอีก ไม่ค่อยอยากเลย

คุณนายสุนีย์ก็เลยแนะนำให้พาไปคลินิกสัตว์ที่ท่านา

วันนี้ขายยาเสร็จก็เลยไปสอบถามดู ปรากฎว่าเค้าให้พามาทำได้เลย

เลือดก็ไม่ต้องตรวจด้วย

ก็เลย..เอาวะ ไม่ไกลบ้าน

ตอนบ่ายโมงก็เลยพาเจ้า 2 ตัว ออกไปกันอีกครั้ง คราวนี้ยังไม่ทันได้เมารถ

แต่มะหมาของเราคงแปลกถิ่น หรือมีลางสังหรณ์ก็ไม่รู้

เข้าไปในคลินิกได้ หมอบกันตัวสั่น

เดือดร้อนให้ต้องอุ้มไปอุ้มมาให้เค้าฉีดยา วางยา

เด็กในร้านไม่ค่อยกล้าอุ้มมัน เพราะพอถามได้ความว่าเป็นบางแก้วก็รีบบอก

"บางแก้ว..หนูไม่ไว้ใจอ่ะพี่ ช่วยจับมันให้หน่อยละกัน"

ดีที่วางยาสลบแล้วไม่ต้องช่วยจับต่อ เพราะเราเองขืนเห็นเลือดอาจมีเป็นลมซะอีก

กว่าจะเสร็จก็เกือบ 2 ชั่วโมง สำหรับ 2 ตัว

มาถึงบ้าน ฟื้นได้ ก็พากันเดินโซเซ ข้าวปลาไม่กิน

ทำเอาเราเริ่มวิตกจริต ว่ามันจะเป็นไรมั๊ยเนี่ย?

ได้แต่รอว่าอีก 10 วันตัดไหม ทุกอย่างจะดีขึ้น

Friday, May 16, 2008

พาคุณหมาไปขึ้นเขียงล่ะ


วันนี้อุตส่าห์หยุดงานครึ่งวันบ่าย จะพามะมอม กับมะแมม มะหมาที่บ้านไปเจาะเลือดเตรียมทำหมัน

หลังจากตอนเช้าพาพ่อกะแม่ไปเจาะเลือดตรวจร่างกายที่ รพ. แล้ว

ไปกันถึง รพ. สัตว์ของ ม.มหิดล ศาลายาโน่น

ยังไม่ถึงครึ่งทาง มะแมมก็อ้วกออกมากองเบ้อเร่อ ดีที่พ่อยังจับมันอ้วกบนผ้ายางพื้นรถได้

(พ่อ) เลยเปียกอ้วกมันไม่เยอะ ส่วนเจ้ามอมไม่อ้วก แต่นอนน้ำลายฟูมปาก

เค้าอุตส่าห์ขับรถช้าๆ เปิดกระจกให้ลมเข้าแล้วนา

พอไปถึงปุ๊บ ก็อุ้มพวกมันลงมาพักกันบนพื้นหญ้า ก่อนจะขึ้นไปติดต่อ

ปรากฎว่าวันศุกร์บ่ายเค้าไม่ทำงานกันซะอีก (ทำไมเหมือนห้องฟัน รพ. เรางี้ฟะ)

เลยไปเสียเที่ยว และอุตส่าห์เลี่ยงเสาร์-อาทิตย์ ก็กลายเป็นว่าเปิดทุกวันซะอีก ....เฮ้อ

กลับมาถึงบ้าน เลยมีหมา 2 ตัว โซเซลงจากรถ แล้วก็เดินหายกันไปเรย

ต้องเอาขนมไปง้อถึงจะมานั่งดีด้วย

ไม่รู้ว่าคราวหน้าจะยอมกระดี๊กระด๊าขึ้นรถไปด้วยดีๆ หรือเปล่า

Monday, May 12, 2008

เก็บหนังมาเล่า เม้าท์เอามัน


"Coffee Prince"

ไม่ค่อยได้ดูหนังเกาหลีกะเขาหรอก เพราะเป็นพวกไม่มีความอดทน ขืนรอดูหนังเป็นสิบๆ ร้อยๆ ตอน คงทนรอตอนจบไม่ไหว ทุบทีวีพังไปซะก่อน

เพราะฉะนั้นบางเรื่องที่ทำท่าจะสนุก ก็จะซื้อหนังสือเรื่องย่อละครมาอ่านซะ ตามประสาคนใจร้อน (เคยขว้างหนังสือประเภทที่ตอนจบประมาณ...พระเอกจะตัดสินใจอย่างไร หรือ รักของทั้งคู่จะเป็นอย่างไร ติดตามได้ทางทีวีช่อง...ตูอุตส่าห์เสียเงินซื้อมานะเฟ้ย ดั๊นไม่บอกตอนจบ)

เรื่องรักวุ่นวายเจ้าชายกาแฟนี่ก็เป็นอีกเรื่องนึงที่ไม่ได้ดู..ถ้าเด็กๆ ในห้องยาไม่เปิดให้ดู

ดูไปดูมา นางเอกหน้าตาคุ้นๆ ฟ่ะ อ้อ เคยเล่นเรื่อง"เจ้าหญิงวุ่นวาย เจ้าชายเย็นชา" นี่เอง

แต่อย่างไรก็ดี มาดูเอาตอนใกล้ๆ จบแล้ว ประมาณว่าพระเอกจับได้ว่านางเอกเป็นผู้หญิงปลอมตัวมา แล้วก็โกรธใหญ่

ก็เลยมีรายการพากษ์อย่างเมามัน...ประมาณว่า

"ชั้นไม่คิดว่าเธอจะหลอกชั้นด้าย ออกไปห่างๆ นะนังชะนี"

หรือว่า

"ชั้นอุตส่าห์ทำใจอยู่ตั้งนาน ว่าเป็นเกย์แน่แล้ว แต่เธอก็มาหลอกชั้นได้เนี่ย"

จนเด็กๆ บอกว่า เจ๊..พอเหอะ จะดูหนังง่ะ

Monday, May 05, 2008

พรรคพวกเค้ามีบ้านใหม่กันแล้วง่ะ

หมู่นี้นอกจากจะไปเที่ยวเป็นงานประจำแล้ว

ยังมีงานอดิเรกไปตามบ้าน (ใหม่) ของพวกๆ กันแบบถี่ยิบ




ตั้งแต่บ้านใหม่ของพี่นาต-พี่โก้
ที่กฤษดานคร นครชัยศรี



คอนโด (เฉพาะตกแต่งก็) เรือนล้านของจุ๋ย
ที่บ้านกลางกรุง ราชเทวี




บ้านใหม่เปี่ยมศักดิ์-นงนุช
ที่บ้านนันทวัน land&house ราชพฤกษ์







เมื่อไหร่จะมีรูปถ่ายร้านขายยาใหม่ๆ ของเค้าบ้างล่ะเนี่ย ~อะฮื้อ....~

Saturday, May 03, 2008

อบรม New drug ที่เชียงใหม่

หลังกลับจากอบรมที่ รร. เอเชีย เราก็ขึ้นเครื่องไปอบรมที่เชียงใหม่กับเปี่ยมและกวงต่อ

คราวนี้เป็นหนแรกที่ขึ้นเครื่องบินไปอบรม ทุกทีจะไปรถไฟนอนกัน 12 ชม.

วันแรกๆ กินกันแต่ที่ food center ห้างเซ็นทรัลกาดสวนแก้วข้างโรงแรม ฝนก็ตกเกือบทุกวัน

วันหลังๆ เลยได้ออกไปกินข้างนอกกันบ้าง


อย่างบุปเฟ่ต์หมูกระทะ ที่กินกันจนแน่นท้อง






ร้าน Good view ริมปิง






ชวนน้องชายไปเล่นโบว์ลิ่ง (ระหว่างอบรม) อีกต่างหาก






เอมารับไปเที่ยว 2 วันแน่ะ






ไปดอยสุเทพกัน (ขับแบบไม่เสียวเหมือนจุ๋ย)











ตัวมอมบนดอยสุเทพ











จากนั้นก็ไปกินขันโตกดูการแสดงกันที่ศูนย์วัฒนธรรมเชียงใหม่



ไม่ได้ไปตะลึงตึงๆ ที่ monkey culb ตามที่จุ๋ยแนะนำ แต่แค่นี้ก็สนุกแระ

ส่วนเรื่องที่ไปอบรมอ่ะ...หลับซะส่วนใหญ่ จนน้องที่นั่งข้างๆ (ไม่รู้จักกัน) บอกว่าพี่กินลูกอมของหนูได้นะ.....แป่ว